- เผยแพร่เมื่อ 6 ก.พ. 2567
- แก้ไขครั้งล่าสุด 20 ก.พ. 2567
- 1 นาที
คู่มือเกี่ยวกับข้อมูลและการใช้งานอุปกรณ์ PPE
ชุด PPE อุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้งาน ที่ทุกโรงงานอุตสาหกรรมต้องจัดให้มีอย่างครบถ้วนตามกฎหมาย ลองมาดูว่ามีประเภทไหนกันบ้าง
![RS marketing banner](http://res.cloudinary.com/rspoc/image/upload/w_1248,h_180,c_crop,c_fill,f_auto,q_auto/dpr_auto/v1664363757/RS%20CONTENTFUL/Discovery/Hero%20Banners/001%20Generic%20Banner/SEO_Guide_Banner_New_Template_5120x360px.jpg)
สำหรับผู้ประกอบการธุรกิจอุตสาหกรรม สิ่งที่ต้องคำนึงถึงเกี่ยวกับพนักงานตามที่กฎหมายกำหนดนั้นคือ การปกป้องอันตรายที่มีผลต่อสุขภาพและความปลอดภัยโดยการใช้อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล
ในคู่มือนี้ จะยกตัวอย่างอุปกรณ์ PPE หลากหลายประเภทและหลักการใช้งาน เพื่อให้สามารถใช้อุปกรณ์อย่างถูกต้องเหมาะสมตามข้อกฎหมาย เพื่อให้คุณมั่นใจว่าพนักงานจะได้รับการป้องกันจากการใช้อุปกรณ์ป้องกันอันตรายที่ถูกต้องอีกด้วย
![อุปกรณ์เซฟตี้มีอะไรบ้าง](https://res.cloudinary.com/rspoc/image/upload/f_auto/q_auto/v1706342644/RS%20CONTENTFUL/Thailand/IDEA%20and%20ADVICE/Get%20to%20know%20personal%20protective%20equipment/get-to-know-ppe.jpg)
อุปกรณ์ PPE คืออะไร?
เริ่มจากข้อมูลเบื้องต้นของ Personal Protective Equipment (PPE) คืออุปกรณ์ป้องกันอันตรายในสถานที่ทำงาน ซึ่งรวมถึงหน้ากากและรองเท้าเซฟตี้
อุปกรณ์ PPE มีความสำคัญเนื่องจากสถานที่ทำงานอย่างเช่นพื้นที่อุตสาหกรรมหรือโรงงาน เป็นพื้นที่ที่มีความเสี่ยงเรื่องความปลอดภัย ถึงแม้พนักงานที่ได้รับการอบรมและมีแนวทางปฏิบัติในพื้นที่ที่มีความเสี่ยง แต่อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นโดยฉับพลัน เครื่องมือหรืออุปกรณ์ตกหล่น ก็สามารถทำให้เกิดการบาดเจ็บได้
ตัวอย่างอันตรายที่เกิดขึ้นได้เช่น มีของหนักตกใส่มือหรือเท้า ของเหลวที่มีฤทธิ์เป็นกรดกระเด็นใส่ วัตถุที่หล่นแล้วแตกกระเด็นไปโดนพนักงาน นอกจากนี้ ยังมีอันตรายอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นได้ซึ่งมีผลรุนแรงในระยะยาวอย่างเช่น สารปนเปื้อนในอากาศ
โดยอุปกรณ์ PPE ที่ออกแบบขึ้นมาจะช่วยลดความเสี่ยงให้พนักงานซึ่งต้องทำงานในพื้นที่อันตรายนั้น มีความปลอดภัยยิ่งขึ้น
อุปกรณ์ PPE มีอะไรบ้างที่ต้องเตรียมในพนักงาน
ผู้ประกอบนั้นมีหน้าที่ปฏิบัติตามกฎหมาย โดยต้องมีอุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคลที่ใช้งานได้จริงให้พนักงานระหว่างปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยง นอกจากนี้ ต้องมีการฝึกอบรมการใช้อุปกรณ์ที่ถูกต้อง โดยนำอุปกรณ์ไปเก็บไว้ในพื้นที่ที่เข้าถึงได้ง่าย และหากไม่มีการใช้ประจำวันนั้นพนักงานต้องทราบว่าอุปกรณ์อยู่ที่บริเวณใดเพื่อพร้อมที่จะใช้งานได้ตลอดเวลา
อุปกรณ์ PPE ต้องมีการตรวจสภาพเป็นประจำและต้องสามารถใช้งานได้ตลอดเวลา ในขณะเดียวกัน นายจ้างต้องสามารถแสดงให้เห็นว่ามีการจัดการความเสี่ยงอย่างเพียงพอด้วยวิธีอื่น
พนักงานมีหน้าที่ดูแลอุปกรณ์ PPE อย่างไรบ้าง
พนักงานที่ทำงานในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงนั้น ต้องสวมใส่อุปกรณ์ PPE ที่เหมาะสม ตามที่นายจ้างจัดหาและทำการฝึกอบรมในการใช้งาน ซึ่งพนักงานเองก็ต้องแสดงความรับผิดชอบ มีหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติตามกฎด้วย โดยหน้าที่ ดังนี้
- ใช้อุปกรณ์ป้องกันความปลอดภัยตามที่ได้รับการอบรม
- ดูแลอุปกรณ์ PPE และไม่ทำการเปลี่ยนแปลงและซ่อมแซมอย่างไม่ถูกต้อง
- ตรวจสอบอุปกรณ์ PPE ก่อนใช้งาน เพื่อหาข้อผิดพลาดที่จะเกิดขึ้น หรือปัญหาที่จะตามมา ตัวอย่างเช่น ชุด PPE ขาดชำรุด ซึ่งต้องแจ้งปัญหาที่เกิดขึ้นโดยทันที
- เก็บอุปกรณ์ในที่เก็บอย่างเหมาะสมหลังการใช้งาน เว้นแต่โดยปกติจะมีการนำอุปกรณ์ไปฝึกใช้ที่บ้านข้ามคืน อย่างชุดและรองเท้า PPE
- หากมีอุปกรณ์ PPE สูญหายต้องแจ้งโดยทันที
ประเภทของอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล
อุปกรณ์PPE นั้นมีหลากหลายประเภท ซึ่งมีแบบใช้งานทั่วไป ใช้งานประจำวัน และใช้งานโดยเฉพาะ ตัวอย่างเช่น ชุด PPE คือชุดที่ประกอบไปด้วยอุปกรณ์ป้องกันต่าง ๆ เช่น หมวกเซฟตี้ ชุดกันความร้อนและกันน้ำ เสื้อสะท้อนแสง และรองเท้าเซฟตี้ มาดูกันว่าอุปกรณ์เซฟตี้หรือชุด PPE ที่คุ้นเคยกันนั้นมีอะไรบ้าง
รองเท้าบูตส์และรองเท้าเซฟตี้
รองเท้าเซฟตี้ที่เสริมความต้านทานต่อกรดเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ PPE ซึ่งปกป้องเท้า โดยเฉพาะนิ้วเท้าจากการถูกอุปกรณ์หล่นใส่ หรือต้องอยู่ในพื้นที่ที่เสี่ยงต่อความแหลมคม โดยมีประเภทให้เลือกตามการใช้งาน นอกจากนี้ รองเท้าเซฟตี้ที่มีกันลื่นนั้นสามารถช่วยลดอุบัติเหตุในการทำงานได้ด้วย
อุปกรณ์ปกป้องระบบทางเดินหายใจ
อุปกรณ์ปกป้องระบบทางเดินหายใจ แบ่งเป็นสองประเภท คือแบบใช้ครั้งเดียว กับแบบสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ ซึ่งแบบที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่มีการป้องกันที่ดีกว่า เหมาะกับการใช้งานในพื้นที่เสี่ยง ตัวอย่างเช่น อุปกรณ์ป้องกันก๊าซพิษ โดยมีที่กรองและอุปกรณ์บางประเภทมีออกซิเจนให้ใช้ด้วย
หน้ากากที่ใช้ครั้งเดียว
อุปกรณ์หน้ากากนั้นช่วยป้องกันบริเวณหน้าเพื่อกรองความสะอาดและใช้ในบริเวณที่มีสารพิษ
ถุงมือ PPE
ถุงมือ PPE ช่วยป้องกันมือของผู้ใช้งานกับวัสดุที่มีความเสี่ยงหรือเป็นอันตราย อุปกรณ์ชนิดนี้ประกอบไปด้วยถุงมือให้ความร้อนสำหรับใช้งานในสภาพแวดล้อมที่หนาวเย็น ถุงมือยางที่ป้องกันไฟฟ้า และถุงมือที่ช่วยต้านทานความร้อนเพื่อลดการถูกเผาไหม้ นอกจากนี้ มีถุงมือยาวที่ใช้ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงอีกด้วย
เมื่อไม่นานมานี้มีการประกาศมาตรฐาน ISO 13997 ที่ใช้ทดสอบถุงมือเซฟตี้กับการใช้ของมีคม เพื่อให้มีความทนทานต่อการถูกตัดและกรีด
ถุงมือแบบใช้ครั้งเดียว
ถุงมือแบบใช้ครั้งเดียวนั้นเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายในหลายอุตสาหกรรม เช่น การแพทย์ งานจัดเลี้ยง และการทำความสะอาด ซึ่งเป็นตัวช่วยในการป้องกันผู้ใช้จากสารเคมีและของเหลวที่มีผลต่อผิว รวมไปถึงป้องกันการติดเชื้อและสารพิษ โดยถุงมือนี้มีการผลิตหลายสี ขนาด และวัสดุ ซึ่งมีทั้งแบบไนโตร ยาง และไวนิล แบบที่ไม่มีแป้งหรือมีแป้งที่ช่วยให้สะดวกในการสวมใส่ เป็นต้น
รองเท้ายางหรือผ้าสวมทับรองเท้า
รองเท้าสวมทับ คือเครื่องห่อหุ้มเท้าที่ใส่สวมทับรองเท้าอีกที เป็นแบบใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง โดยใช้ในพื้นที่ที่ต้องระมัดระวังเรื่องสาร อย่างเช่น ห้องปฏิบัติการณ์ โรงงานอาหารและส่วนครัว ซึ่งเป็นพื้นที่ที่รองเท้าเซฟตี้นั้นไม่มีความจำเป็น แต่เป็นที่ที่ต้องการระมัดระวังเรื่องความสะอาดเป็นพิเศษ
ชุดสะท้อนแสง
เสื้อคลุม เสื้อกั๊ก และปลอกแขนเรืองแสง ออกแบบให้สำหรับคนทำงานในเวลากลางคืน หรือในพื้นที่ที่ต้องการให้เห็นคนทำงานได้อย่างชัดเจน
อุปกรณ์ป้องกันหู
อุปกรณ์ป้องกันหู เป็นอุปกรณ์ที่มีความสำคัญในพื้นที่ที่มีเสียงดัง ช่วยป้องกันความเสี่ยงของผู้ที่ได้รับคลื่นเสียงดังเป็นเวลายาวนาน ซึ่งขนาดของอุปกรณ์ที่พอดีกับผู้ใส่เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง
อุปกรณ์ป้องกันดวงตา
แว่นตากันลม หรือแว่นตาเซฟตี้ ช่วยลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับดวงตาจากเศษที่อาจกระเด็นใส่ สารเคมี ก๊าซ และผงฝุ่น แว่นตาเซฟตี้สามารถทำตามแบบที่สั่งได้ด้วยเลนส์แบบใช้ทุกวัน โดยสามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับแว่นตาเซฟตี้ เพื่อข้อมูลที่ถูกต้องและความปลอดภัยของดวงตามากที่สุด
อุปกรณ์ป้องกันการตก
เข็มขัดนิรภัย ถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันผู้ใช้งานในพื้นที่สูงจากการตกลงมา โดยอุปกรณ์นี้ช่วยกระจายน้ำหนักของผู้ใช้อุปกรณ์ เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุและบาดเจ็บได้ ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับอุปกรณ์ปีนผานั่นเอง
ควรสวมใส่อุปกรณ์ PPE อย่างไร
![ชุด PPE สำหรับอุตสาหกรรม](https://res.cloudinary.com/rspoc/image/upload/f_auto/q_auto/v1706343790/RS%20CONTENTFUL/Thailand/IDEA%20and%20ADVICE/Get%20to%20know%20personal%20protective%20equipment/industrial-ppe.jpg)
อุปกรณ์ PPE ควรเก็บรักษาอย่างไร
อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลต้องมีการบำรุงและเก็บรักษาโดยผู้ประกอบการ ในบางบริษัทนั้นมีการนำชุด PPE กลับบ้าน โดยขั้นตอนการใส่และถอดอุปกรณ์ PPE ควรเป็นไปตามตัวอย่าง ดังนี้
- มาสก์และเครื่องช่วยหายใจ : ต้องสวมอย่างพอดีและมั่นคงที่หัวก่อน แล้วค่อยไปที่บริเวณหน้าปรับกระชับให้พอดี
- ถุงมือ : ต้องใส่ให้ครอบคลุมไปถึงบริเวณข้อมือ
- แว่นตาเซฟตี้ : ควรใส่ครอบคลุมที่บริเวณดวงตาก่อนแล้วค่อยดึงสายรัดด้านหลังให้แน่น
การถอดอุปกรณ์ PPE
การถอดอุปกรณ์ที่ปลอดภัยจากพื้นที่ที่มีสารพิษ ตัวอย่างเช่น
- มาสก์และเครื่องช่วยหายใจ : ควรโยงรวมกันไปด้านหลังแล้วถอดออกจากหน้า โดยไม่ให้ใบหน้าสัมผัสกับอุปกรณ์
- ถุงมือ : เริ่มถอดมือข้างหนึงโดยดึงออกจากบริเวณฝ่ามือ แล้วถอดถุงมืออีกข้างโดยสอดนิ้วในถุงมือจากข้างใต้ข้อมือแล้วดึงขึ้น
- แว่นเซฟตี้ : ปลดล็อกจากด้านหลังแล้วผลักไปข้างหน้า แบบไม่ให้โดนใบหน้า
ถ้ามือของคุณสัมผัสกับสารพิษตอนที่ถอดอุปกรณ์ PPE ต้องล้างออกทันทีด้วยน้ำยาที่ใช้ล้างทำความสะอาด
วิธีจัดการกับอุปกรณ์ PPE ที่เสียหาย
หากอุปกรณ์ PPE เกิดการชำรุดเสียหาย ต้องแจ้งผู้จัดการหรือผู้ที่มีอำนาจโดยตรงทันที เพื่อทำการหาอุปกรณ์มาแทนที่
วิธีกำจัดอุปกรณ์ PPE ที่ถูกต้อง
อุปกรณ์ PPE ที่ใช้เพียงครั้งเดียวนั้นจะมีสารปนเปื้อนจากการใช้ในระยะอันสั้น ดังนั้นจึงต้องกำจัดโดยผนึกให้เรียบร้อย และทิ้งในที่ที่จัดไว้สำหรับจัดการขยะประเภทนี้
สินค้าขายดี
Helly Hansen
ด้วยประวัติศาสตร์ของแบรนด์ที่มีมาเนิ่นนานกว่าร้อยปี ทำให้ Helly Hansen เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ทั่วโลกยอมรับ