ในงานอุตสาหกรรม ปัญหากระแสไฟฟ้ากระชาก (Surge) สามารถทำให้อุปกรณ์ไฟฟ้าเสียหายอย่างรุนแรงได้ในเวลาไม่นาน การใช้ตัวกันไฟกระชาก หรือ Surge Suppressor จึงเป็นวิธีที่ช่วยรักษาความปลอดภัยให้แก่อุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องจักร คอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีราคาสูง โดยอุปกรณ์ Surge Suppressor นี้ สามารถช่วยป้องกันความเสียหายจากกระแสไฟกระชากที่อาจเกิดขึ้นจากฟ้าผ่า หรือข้อผิดพลาดในระบบไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ตัวกันไฟกระชาก (Surge Suppressor) คือ อุปกรณ์ที่ใช้ป้องกันอุปกรณ์ไฟฟ้าจากการเสียหายที่เกิดจากกระแสไฟฟ้ากระชาก ซึ่งอาจเกิดจากฟ้าผ่า หรือความผิดปกติในระบบไฟฟ้า เช่น กระแสไฟฟ้าสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว (Voltage Spike) โดยอุปกรณ์จำกัดแรงดันไฟกระชากจะทำการลดหรือเบี่ยงเบนกระแสไฟฟ้าที่เกินกำหนดให้ไหลลงสู่พื้นดิน เพื่อให้อุปกรณ์ไฟฟ้าสามารถทำงานได้อย่างปลอดภัยและต่อเนื่อง
ตัวกรองไฟกระชาก หรือที่รู้จักกันในชื่อ อุปกรณ์ลดไฟกระชาก (SPDs) เป็นอุปกรณ์ที่มีหน้าที่ปกป้องอุปกรณ์ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ โดยช่วยลดผลกระทบที่เกิดจากกระแสไฟกระชากและแรงดันไฟฟ้าที่สูงขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมากต่อการทำงานในโรงงานอุตสาหกรรม ธุรกิจการค้า ที่มีการใช้งานอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จำนวนมาก โดยมาพร้อมกับประโยชน์ดังนี้
ตัวกรองไฟกระชากช่วยป้องกันความเสียหายที่เกิดขึ้นกับอุปกรณ์ไฟฟ้า จากการเกิดกระแสไฟกระชากอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจเกิดจากฟ้าผ่า การสลับระบบพลังงาน หรือความผิดปกติของอุปกรณ์ โดยการเบี่ยงเบนกระแสไฟฟ้าที่เกินออกไปยังพื้นดินอย่างปลอดภัย ทำให้สามารถปกป้องอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น หม้อแปลงไฟฟ้า เบรกเกอร์ไฟฟ้า คอมพิวเตอร์ เครื่องจักรอุตสาหกรรม และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่บอบบางจากการเสียหาย และช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม
ปัญหากระแสไฟกระชากสามารถทำให้อุปกรณ์หยุดทำงานหรือเสียหาย ซึ่งส่งผลให้เกิดเวลา Downtime หรือช่วงเวลาที่เครื่องจักรไม่สามารถทำงานได้ ส่งผลให้การผลิตล่าช้า กระบวนการทำงานหยุดชะงัก และรายได้หายไป ซึ่งตัวกรองไฟกระชากสามารถป้องกันปัญหาเหล่านี้ และช่วยให้ระบบทำงานได้อย่างต่อเนื่อง
เหตุการณ์กระแสไฟกระชากที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ สามารถทำให้อุปกรณ์ไฟฟ้าเสื่อมสภาพและลดอายุการใช้งานลง การมีตัวกันไฟกระชากจะช่วยลดการเสียหายที่เกิดจากแรงดันไฟฟ้าที่สูงเกินไปบนอุปกรณ์ ทำให้อุปกรณ์ในโรงอุตสาหกรรม และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีราคาสูง สามารถใช้งานได้ยาวนานขึ้น
กระแสไฟกระชากอาจทำให้เกิดอันตราย เช่น ไฟฟ้าลัดวงจร หรืออันตรายจากไฟไหม้ การมีตัวกรองไฟกระชากจะช่วยลดความเสี่ยงเหล่านี้ โดยการป้องกันไม่ให้กระแสไฟฟ้าที่สูงเกินไปไหลเข้าสู่อุปกรณ์และสายไฟ ทำให้สภาพแวดล้อมการทำงานมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น และลดความเสี่ยงจากการบาดเจ็บและความเสียหายต่อทรัพย์สิน
ตัวกรองไฟกระชากช่วยให้ระบบไฟฟ้ามีความเสถียร โดยการดูดซับและกระจายกระแสไฟกระชากที่เกิดขึ้น ช่วยลดสัญญาณรบกวนและสัญญาณแทรกแซงที่อาจทำให้ระบบควบคุม ระบบการสื่อสาร และการถ่ายโอนข้อมูลไม่เสถียร ซึ่งจะช่วยให้ระบบทำงานได้อย่างต่อเนื่องอยู่เสมอ
อุปกรณ์ลดไฟกระชาก ทำงานโดยการปิดกั้นหรือเบี่ยงเบนกระแสไฟฟ้าที่เกินกำหนดให้ไหลไปยังพื้นดิน ซึ่งกระแสไฟฟ้าจะวิ่งไปที่ระบบกราวนด์ (Grounding System) ทันทีที่มีแรงดันไฟฟ้าเพิ่มสูงขึ้นจนเกินขีดจำกัดที่ตั้งไว้ จึงช่วยลดความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับอุปกรณ์ไฟฟ้าได้
โดยทั่วไป หน่วยกันไฟกระชากจะติดตั้งอยู่ใน Power Distribution Units หรือแผงควบคุมไฟฟ้า และบางรุ่นอาจมาพร้อมกับไฟแสดงสถานะ เพื่อแจ้งเตือนเมื่ออุปกรณ์ใกล้จะเสีย หรือเกิดการทำงานผิดปกติ
ตัวกันไฟกระชากมีหลายประเภท ขึ้นอยู่กับการติดตั้ง ความสามารถในการรองรับกระแสไฟกระชากสูงสุด และประเภทของอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ต้องการป้องกัน โดยตัวกันไฟกระชากที่พบได้ทั่วไป มีอยู่ด้วยกันดังนี้
ตัวกันไฟกระชากประเภท 1 จะติดตั้งที่ทางเข้าหลักของอาคารหรือสถานที่ เพื่อป้องกันกระแสไฟกระชากที่มีพลังงานสูง เช่น กระแสไฟที่เกิดจากฟ้าผ่าโดยตรง อุปกรณ์เหล่านี้จะเบี่ยงเบนกระแสไฟกระชากที่มีพลังงานสูงไปยังพื้นดินอย่างปลอดภัย ช่วยป้องกันความเสียหายต่อระบบไฟฟ้าทั้งระบบ
ตัวกันไฟกระชากประเภท 2 จะติดตั้งที่แผงจ่ายไฟย่อย (Sub-Panels) หรือที่แผงกระจายพลังงาน (Distribution Boards) ซึ่งจะช่วยป้องกันกระแสไฟกระชากที่เหลือ ซึ่งอาจหลุดรอดผ่านตัวกรองไฟกระชากประเภท 1 หรือเกิดจากการทำงานภายในระบบไฟฟ้าขัดข้อง เช่น การเปิด-ปิดสวิตช์ หรือการเปิดใช้งานมอเตอร์ไฟฟ้า
ตัวกันไฟกระชากประเภท 3 หรือหน่วยกันไฟกระชาก จะให้การป้องกันเฉพาะในพื้นที่ที่มีอุปกรณ์ซึ่งมีความอ่อนไหวสูง เช่น คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์การแพทย์ หรือระบบการสื่อสาร โดยมักติดตั้งในปลั๊กไฟหรือที่ตัวเต้ารับ
อุปกรณ์เหล่านี้ช่วยปกป้องสายสัญญาณและสายสื่อสารจากกระแสไฟกระชาก ที่อาจทำให้เกิดความเสียหายต่ออุปกรณ์เครือข่าย หรือทำให้คุณภาพสัญญาณลดลง
การเลือกตัวกันไฟกระชาก หรือ Surge Suppressor ให้มั่นใจว่าจะสามารถปกป้องอุปกรณ์ไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควรคำนึงถึงปัจจัยดังต่อไปนี้
เลือกอุปกรณ์ที่รองรับกระแสไฟกระชากที่สูงพอที่จะป้องกันความเสียหายในการทำงานได้ เช่น หากคุณต้องการปกป้องอุปกรณ์ในโรงงานอุตสาหกรรม ที่มีการใช้เครื่องจักรขนาดใหญ่หรือระบบควบคุมอัตโนมัติ ควรเลือกตัวกรองไฟกระชากที่รองรับกระแสไฟกระชากในช่วง 1,500-3,000A
ความสามารถในการต้านทานแรงดันไฟฟ้า (Voltage Rating) หมายถึง ระดับแรงดันไฟฟ้าที่หน่วยกันไฟกระชากสามารถทนได้ โดยไม่ทำให้เกิดความเสียหายหรือทำให้ตัวอุปกรณ์ทำงานผิดปกติ
พิจารณาขนาดและประเภทของอุปกรณ์ เช่น คอมพิวเตอร์ ระบบไฟฟ้าในโรงงาน หรืออุปกรณ์ทางการแพทย์ เพื่อเลือกอุปกรณ์ Surge Suppressor ที่มีคุณสมบัติและขนาดเหมาะสมกับอุปกรณ์เหล่านั้น
หากต้องการนำไปใช้งานร่วมกับสายเคเบิล Coaxial หรือสาย Cat 6 ควรเลือกอุปกรณ์ Surge Suppressor ที่รองรับการเชื่อมต่อกับสายเหล่านี้ เพื่อให้มั่นใจว่าการป้องกันไฟกระชากจะทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
เลือกอุปกรณ์ที่เหมาะกับสภาพแวดล้อมการใช้งาน เช่น อุปกรณ์ที่ทนต่อสภาพอากาศกลางแจ้ง หรือทนความชื้นสูง สำหรับพื้นที่ที่มีการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิและความชื้นอย่างรวดเร็ว
RS ผู้นำด้านโซลูชันอุตสาหกรรมและอิเล็กทรอนิกส์ จำหน่ายที่ลดกระแสไฟฟ้ากระชาก (Surge Suppressors) คุณภาพสูงจากแบรนด์ชั้นนำ ที่ผ่านการรับรองด้านความปลอดภัย เช่น Phoenix Contact, Dehn, Bourns และแบรนด์ของเราเอง อย่าง RS PRO โดยเราจำหน่าย Electrical Surge Suppressor ทั้งราคาปลีกและราคาส่ง สั่งซื้อสะดวกผ่านเว็บไซต์ หรือติดต่อผู้เชี่ยวชาญ เพื่อขอรับคำแนะนำในการเลือกสินค้าที่เหมาะกับการใช้งานในอุตสาหกรรมของคุณได้เลย