Multi Function Panel Meters

แหล่งรวมมัลติฟังก์ชันพาเนลมิเตอร์ ซื้อสะดวกในที่เดียว

ในยุคปัจจุบันที่เทคโนโลยีการผลิตในอุตสาหกรรมเติบโตอย่างรวดเร็ว การควบคุมและตรวจสอบกระบวนการผลิตอย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพคือสิ่งจำเป็น การใช้เครื่องมือที่ทันสมัยอย่างมัลติฟังก์ชันพาเนลมิเตอร์ จึงเป็นสิ่งที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือในการควบคุมเครื่องจักรในโรงงานอุตสาหกรรม เนื่องจากมัลติฟังก์ชันมิเตอร์คือเครื่องมือสำคัญที่ช่วยในการวัดและตรวจสอบพารามิเตอร์ต่าง ๆ ของระบบ เช่น แรงดันไฟฟ้า กระแสไฟฟ้า และพลังงานไฟฟ้า นอกจากนี้ยังสามารถส่งข้อมูลเหล่านี้ไปยังระบบควบคุม เพื่อใช้ในการวิเคราะห์และปรับปรุงกระบวนการผลิตได้อย่างแม่นยำ

มัลติฟังก์ชันพาเนลมิเตอร์คืออะไร ?

มัลติฟังก์ชันพาเนลมิเตอร์ (Multi Function Panel Meters) คือเครื่องมือวัดทางไฟฟ้าที่รวมความสามารถในการวัดค่าพารามิเตอร์ทางไฟฟ้าหลายชนิดไว้ในอุปกรณ์เดียว ได้แก่ แรงดันไฟฟ้า (Voltage), กระแสไฟฟ้า (Current), กำลังไฟฟ้า (Power), ตัวประกอบกำลัง (Power Factor), ความถี่ (Frequency) และพลังงานไฟฟ้า (Energy) โดยสามารถแสดงผลผ่านหน้าจอดิจิทัลที่มีความละเอียดสูง โดยมัลติฟังก์ชันพาเนลมิเตอร์ถูกออกแบบมาเพื่อทดแทนมิเตอร์แอนะล็อกแบบดั้งเดิม ซึ่งมีข้อดีมากมายทั้งในด้านความแม่นยำ ความยืดหยุ่น และความสะดวกในการใช้งาน

Multi Function Panel Meters ตอบโจทย์การใช้งานในโรงงานอุตสาหกรรมหรือสถานประกอบการที่ต้องการตรวจสอบและควบคุมระบบไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง โดยพาเนลมิเตอร์อเนกประสงค์สามารถเชื่อมต่อกับระบบการจัดการพลังงาน เพื่อช่วยในการติดตามและปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานของเครื่องจักร

หลักการทำงานของมัลติฟังก์ชันพาเนลมิเตอร์

ดิจิทัลมัลติฟังก์ชันมิเตอร์ทำงานโดยการรับสัญญาณไฟฟ้าผ่านหม้อแปลงกระแส (CT) และหม้อแปลงแรงดัน (PT) จากนั้นจะประมวลผลสัญญาณด้วยไมโครโปรเซสเซอร์ความเร็วสูง เพื่อแปลงเป็นค่าทางไฟฟ้าต่าง ๆ ที่ต้องการวัด โดยมีขั้นตอนการทำงาน ดังนี้

  1. การรับสัญญาณอินพุต : รับสัญญาณจากระบบไฟฟ้าผ่าน CT และ PT
  2. การแปลงสัญญาณ : แปลงสัญญาณแอนะล็อกเป็นดิจิทัล
  3. การประมวลผล : คำนวณค่าพารามิเตอร์ต่าง ๆ ด้วยไมโครโปรเซสเซอร์
  4. การแสดงผล : แสดงผลค่าที่วัดได้บนหน้าจอ LCD หรือ LED
  5. การส่งข้อมูล : สื่อสารข้อมูลผ่านพอร์ตการสื่อสารต่าง ๆ เช่น RS485, Modbus

ประโยชน์ของมัลติฟังก์ชันพาเนลมิเตอร์

  • การตรวจสอบระบบไฟฟ้าอย่างแม่นยำ : พาเนลมิเตอร์แบบดิจิทัลช่วยให้การวัดค่าต่าง ๆ ของระบบไฟฟ้ามีความแม่นยำสูง ซึ่งช่วยให้ผู้ควบคุมสามารถติดตามสถานะของระบบได้ตลอดเวลา
  • ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย : การใช้มัลติฟังก์ชันดิจิทัลพาเนลมิเตอร์ทำให้ไม่จำเป็นต้องติดตั้งอุปกรณ์วัดหลายตัวในระบบเดียวกัน สามารถวัดได้หลายค่าพร้อมกันในอุปกรณ์เดียว
  • เพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการผลิต : การตรวจสอบข้อมูลต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องและการวิเคราะห์เชิงลึกสามารถช่วยให้การทำงานของเครื่องจักรมีประสิทธิภาพสูงขึ้น
  • การบำรุงรักษาเชิงป้องกัน (Preventive Maintenance) : ดิจิทัลมัลติฟังก์ชันมิเตอร์ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบสถานะของระบบไฟฟ้าและเครื่องจักรล่วงหน้า ทำให้สามารถแก้ไขปัญหาก่อนที่ระบบจะเสียหาย

มัลติฟังก์ชันพาเนลมิเตอร์มีกี่ประเภท ?

มัลติฟังก์ชันพาเนลมิเตอร์มีหลายประเภท ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานและฟังก์ชันที่ต้องการ โดยสามารถแบ่งออกได้ดังนี้ 

  • แบบพื้นฐาน (Basic Type) : ดิจิทัลมัลติฟังก์ชันมิเตอร์แบบพื้นฐาน เป็นรุ่นที่สามารถวัดค่าพารามิเตอร์พื้นฐานเช่น แรงดันไฟฟ้า (Voltage), กระแสไฟฟ้า (Current) และพลังงานไฟฟ้า (Energy) อุปกรณ์เหล่านี้มักจะเหมาะสำหรับการใช้งานในระบบที่ไม่ซับซ้อมากนัก
  • แบบขั้นสูง (Advanced Type) : มีฟังก์ชันที่ซับซ้อนมากขึ้น สามารถวัดค่าพารามิเตอร์ได้หลากหลาย เช่น การวัดค่าปัจจัยพลังงาน (Power Factor), กำลังไฟฟ้า (Power), การวิเคราะห์ฮาร์มอนิกส์ (Harmonics Analysis) และค่าที่เกี่ยวข้องกับพลังงานไฟฟ้าอย่างละเอียด อุปกรณ์เหล่านี้เหมาะสำหรับการใช้งานในระบบไฟฟ้าที่มีความซับซ้อน และต้องการการตรวจสอบอย่างแม่นยำและครอบคลุม
  • แบบเน็ตเวิร์ก (Network Type) : ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการเชื่อมต่อและส่งข้อมูลผ่านเครือข่าย (Network) สามารถเชื่อมต่อกับระบบควบคุมและการจัดการพลังงานจากระยะไกลผ่านโปรโตคอลต่าง ๆ เช่น Modbus RTU, Modbus TCP/IP หรือโปรโตคอลอื่น ๆ ที่ใช้ในการสื่อสารภายในระบบอุตสาหกรรม อุปกรณ์ประเภทนี้เหมาะสำหรับโรงงานหรือสถานประกอบการที่ต้องการการตรวจสอบและควบคุมระบบไฟฟ้าจากศูนย์กลางหรือระบบการจัดการพลังงานแบบเรียลไทม์

คู่มือการเลือกมัลติฟังก์ชันพาเนลมิเตอร์ให้เหมาะกับการใช้งาน

การเลือกมัลติฟังก์ชันพาเนลมิเตอร์ที่เหมาะสม มีความสำคัญอย่างยิ่งในการวัดค่าต่าง ๆ อย่างแม่นยำและตรวจสอบระบบไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพ ต่อไปนี้คือปัจจัยสำคัญที่ควรพิจารณา

  • ความสามารถในการวัดค่า : ตรวจสอบค่าพารามิเตอร์ไฟฟ้าที่ต้องการวัด เนื่องจากพาเนลมิเตอร์ อเนกประสงค์สามารถวัดค่าได้หลากหลาย เช่น แรงดันไฟฟ้า กระแสไฟฟ้า ตัวประกอบกำลัง (Power Factor) กำลังไฟฟ้า (kW), กำลังไฟฟ้าปฏิกิริยา (kVAR) และการใช้พลังงาน (kWh) ดังนั้น ควรแน่ใจว่ามิเตอร์ที่เลือกสามารถวัดค่าที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานได้อย่างแม่นยำ
  • ความแม่นยำและความเที่ยงตรง : ควรเลือกมิเตอร์ที่มีความแม่นยำสูง เพราะมีความสำคัญต่อการจัดการพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงตรวจสอบระดับความแม่นยำในสเปกของอุปกรณ์ว่าตรงตามความต้องการของการใช้งานหรือไม่
  • โปรโตคอลการสื่อสาร : หากต้องการตรวจสอบระบบจากระยะไกล ควรเลือกมัลติฟังก์ชันพาเนลมิเตอร์ที่รองรับโปรโตคอลการสื่อสาร เช่น Modbus, RS485 หรือ Ethernet ซึ่งช่วยให้สามารถเชื่อมต่อกับระบบการจัดการพลังงานและระบบควบคุมอื่น ๆ และสามารถเข้าถึงข้อมูลแบบเรียลไทม์ได้จากระยะไกล
  • คุณสมบัติการแสดงผล : ประเมินตัวเลือกการแสดงผลของมิเตอร์ หน้าจอที่มีแสงพื้นหลัง และแสดงผลได้อย่างชัดเจนจะช่วยเพิ่มความสะดวกในการอ่านค่าในที่ที่มีแสงน้อย นอกจากนั้น ดิจิทัลมัลติฟังก์ชันมิเตอร์บางรุ่นมีหน้าจอสัมผัสซึ่งช่วยให้ใช้งานและนำทางได้ง่ายขึ้น
  • ข้อกำหนดการติดตั้ง : ตรวจสอบกระบวนการติดตั้งและความเข้ากันได้กับระบบที่มีอยู่ เพื่อช่วยให้การติดตั้งสะดวกยิ่งขึ้น รวมถึงควรตรวจสอบขนาดของมิเตอร์ให้พอดีกับพื้นที่ในแผงควบคุม
  • ความต้องการในการใช้งาน : คำนึงถึงประเภทอุตสาหกรรมหรือการใช้งานที่ต้องการใช้มิเตอร์ เนื่องจากแต่ละภาคอุตสาหกรรมอาจมีความต้องการเฉพาะที่ต่างกัน เช่น การใช้งานในภาคพลังงานหมุนเวียนอาจต้องการฟีเจอร์การวัดที่เฉพาะเจาะจงต่างจากการใช้งานในระบบอัตโนมัติทางอุตสาหกรรม

เปรียบเทียบมัลติฟังก์ชันพาเนลมิเตอร์กับมิเตอร์แบบดั้งเดิม

ในการเลือกใช้ระหว่างมัลติฟังก์ชันพาเนลมิเตอร์กับมิเตอร์แบบดั้งเดิม สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจความแตกต่างหลัก ๆ ของมิเตอร์ทั้งสองแบบ ดังนี้

  • ฟังก์ชันการใช้งาน : พาเนลมิเตอร์อเนกประสงค์สามารถวัดพารามิเตอร์ทางไฟฟ้าได้หลายอย่างในเวลาเดียวกัน เช่น แรงดันไฟฟ้า กระแสไฟฟ้า ตัวประกอบกำลัง และการใช้พลังงาน ขณะที่มิเตอร์แบบดั้งเดิมหรือแบบแอนะล็อกมักวัดได้เพียงหนึ่งค่าในแต่ละครั้ง ดังนั้น การใช้งานมัลติฟังก์ชันจึงช่วยให้ได้ข้อมูลครบถ้วนโดยไม่ต้องใช้เครื่องมือหลายตัว
  • การบันทึกและวิเคราะห์ข้อมูล : มัลติฟังก์ชันพาเนลมิเตอร์หลายรุ่นมาพร้อมกับความสามารถในการบันทึกข้อมูล ทำให้ผู้ใช้สามารถติดตามประสิทธิภาพย้อนหลังได้ ในขณะที่มิเตอร์แบบดั้งเดิมมักจะไม่มีฟีเจอร์นี้
  • อินเทอร์เฟซผู้ใช้ : มัลติฟังก์ชันพาเนลมิเตอร์มักมาพร้อมกับหน้าจอดิจิทัลที่สามารถปรับแต่งได้ ทำให้ผู้ใช้สามารถเลือกวิธีการแสดงผลข้อมูลตามความต้องการ ในขณะที่มิเตอร์แบบดั้งเดิมส่วนใหญ่จะใช้หน้าปัดแอนะล็อกที่แสดงผลได้เพียงข้อมูลพื้นฐาน
  • ความยืดหยุ่นในการติดตั้ง : มัลติฟังก์ชันพาเนลมิเตอร์สามารถติดตั้งในระบบต่าง ๆ ได้ง่ายกว่ามิเตอร์แบบดั้งเดิม เพราะมักรองรับการทำงานร่วมกับหม้อแปลงกระแสในระบบแรงดันต่ำถึงสูง
  • ความคุ้มค่า : แม้ว่าดิจิทัลมัลติฟังก์ชันมิเตอร์อาจมีราคาสูงกว่าในช่วงแรก แต่สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาวได้ ด้วยการลดความจำเป็นในการติดตั้งอุปกรณ์วัดหลายตัว นอกจากนี้ยังช่วยให้สามารถจัดการพลังงานได้ดีขึ้น ลดค่าใช้จ่ายจากการใช้พลังงานและการบำรุงรักษาระบบในระยะยาวอีกด้วย

ตัวอย่างการใช้งานมัลติฟังก์ชันพาเนลมิเตอร์ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ

  • อุตสาหกรรมการผลิต (Manufacturing Industry) : ในโรงงานที่มีเครื่องจักรจำนวนมากและระบบไฟฟ้าที่ซับซ้อน การใช้มัลติฟังก์ชันพาเนลมิเตอร์ช่วยให้การตรวจสอบและควบคุมระบบไฟฟ้าทำได้ง่ายขึ้น และสามารถตรวจสอบการใช้พลังงานของเครื่องจักรแต่ละตัวได้อย่างแม่นยำ
  • อุตสาหกรรมพลังงาน (Energy Industry) : ในระบบการผลิตพลังงานไฟฟ้า เช่น โรงไฟฟ้าหรือสถานีไฟฟ้าย่อย พาเนลมิเตอร์อเนกประสงค์ช่วยในการวัดและวิเคราะห์การจ่ายพลังงาน ทำให้การควบคุมระบบทำได้อย่างมีประสิทธิภาพและลดการสูญเสียพลังงาน
  • อุตสาหกรรมปิโตรเคมี (Petrochemical Industry) : โรงงานปิโตรเคมีมีความซับซ้อนในกระบวนการผลิตและต้องการความปลอดภัยสูง การใช้มัลติฟังก์ชันพาเนลมิเตอร์ช่วยให้สามารถตรวจสอบระบบไฟฟ้าในทุกส่วนของกระบวนการผลิตได้อย่างละเอียด
  • อุตสาหกรรมก่อสร้าง (Construction Industry) : ในโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ เช่น อาคารสูงหรือโรงงาน การใช้ดิจิทัลมัลติฟังก์ชันมิเตอร์ช่วยในการวัดและตรวจสอบการจ่ายพลังงานในระบบไฟฟ้า
  • อุตสาหกรรมยานยนต์ (Automotive Industry) : มัลติฟังก์ชันพาเนลมิเตอร์ใช้ในสายการผลิตรถยนต์เพื่อวัดค่าพารามิเตอร์ไฟฟ้าในกระบวนการผลิต รวมถึงตรวจสอบการใช้พลังงานในระบบต่าง ๆ ของโรงงาน

เลือกซื้อมัลติฟังก์ชันพาเนลมิเตอร์คุณภาพสูง ราคาคุ้มค่าที่ RS

ผู้ประกอบการคนไหนกำลังมองหาแหล่งจำหน่ายมัลติฟังก์ชันพาเนลมิเตอร์ที่มีตัวเลือกครบครัน ต้องมาที่ RS ผู้นำด้านโซลูชันอุตสาหกรรมและอิเล็กทรอนิกส์ เราคัดสรรดิจิทัลมัลติฟังก์ชันมิเตอร์ราคาคุ้ม คุณภาพเยี่ยม จากแบรนด์ชั้นนำที่ได้มาตรฐานมาให้เลือกซื้อได้สะดวก เช่น DruckEndress+Hauser, Omron, Sifam Tinsley และอีกมากมาย มีดิจิทัลมัลติฟังก์ชันมิเตอร์ ทั้งราคาปลีกและราคาส่ง ครอบคลุมทุกความต้องการของผู้ประกอบการ เลือกซื้อสินค้าได้สะดวกตลอด 24 ชม. บนเว็บไซต์ของเรา พร้อมบริการจัดส่งทั่วประเทศไทย หากต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเลือกซื้อมัลติฟังก์ชันพาเนลมิเตอร์ที่เหมาะสมกับอุตสาหกรรมของคุณ สามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์ของเราได้เลย

595 สินค้าที่แสดงสำหรับ Multi Function Panel Meters

  • RS Stock No. 348-1705
  • หมายเลขชิ้นส่วนของผู้ผลิต / Mfr. Part No. PA420.064AX01
Each
THB38,393.89
Baumer
Current, Voltage
LED
93mm
45mm
-
-
-
-
-10°C
+60°C
-
-
  • RS Stock No. 250-7624
  • หมายเลขชิ้นส่วนของผู้ผลิต / Mfr. Part No. 762100-PMD1-BLT-EN
Each
THB118,005.20
Penko
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
  • RS Stock No. 125-0659
  • หมายเลขชิ้นส่วนของผู้ผลิต / Mfr. Part No. SRP-147 24VDC
Each
THB17,133.33
Simex
0→10 V
LED
67mm
137mm
92mm
4
38 mm
10 V
0°C
+50°C
-
-
  • RS Stock No. 231-4115
  • หมายเลขชิ้นส่วนของผู้ผลิต / Mfr. Part No. APM-MAX-M23-NL-4B
Each
THB12,500.80
Trumeter
Current, Frequency, Power, Voltage
LCD
68mm
68mm
45mm
4
-
-
-
-
-
-
  • RS Stock No. 269-0884
  • หมายเลขชิ้นส่วนของผู้ผลิต / Mfr. Part No. 14070178
Each
THB22,834.31
WIKA
Current, Resistance, Voltage
LED
48mm
96mm
98mm
4
-
-
-
-
-
-
  • RS Stock No. 216-3432
  • หมายเลขชิ้นส่วนของผู้ผลิต / Mfr. Part No. 2710314
Each
THB13,377.49
Phoenix Contact
Current, Voltage
Digital
24mm
48mm
68mm
-
-
-
-
-
-
-
  • RS Stock No. 194-2973
  • หมายเลขชิ้นส่วนของผู้ผลิต / Mfr. Part No. PA403.088AX01
Each
THB12,799.92
Baumer
Current, Voltage
LED
45mm
92mm
96mm
4
20 mm
-
-10°C
+60°C
-
1 → 5 (Current) A, 20 → 600 (Voltage)V
  • RS Stock No. 470-143
  • หมายเลขชิ้นส่วนของผู้ผลิต / Mfr. Part No. LD4A05P0
Each
THB60,013.70
Red Lion
Current, Voltage
LED
-
-
-
-
-
-
0°C
+65°C
-
-
  • RS Stock No. 896-7730
  • หมายเลขชิ้นส่วนของผู้ผลิต / Mfr. Part No. KPN1LE1-I8121462
Each
THB31,598.28
microSYST
Profinet
7 Segment LED
-
-
60mm
6
13 mm
-
0°C
+50°C
-
-
  • RS Stock No. 210-2695
  • หมายเลขชิ้นส่วนของผู้ผลิต / Mfr. Part No. APM-MAX-M21-PU-4B
Each
THB11,356.72
Trumeter
Amps, Frequency or Power, Voltage
LCD
68mm
68mm
45mm
4
-
-
-
-
-
-
  • RS Stock No. 231-4114
  • หมายเลขชิ้นส่วนของผู้ผลิต / Mfr. Part No. APM-MAX-M21-PL-4R
Each
THB11,210.55
Trumeter
Current, Frequency, Power, Voltage
LCD
68mm
68mm
45mm
4
-
-
-
-
-
-
  • RS Stock No. 796-6875
  • หมายเลขชิ้นส่วนของผู้ผลิต / Mfr. Part No. 5715D
Each
THB17,931.03
PR Electronics
Current, Potentiometer Signals, Resistance, Temperature, Voltage
LED
44.5mm
91.5mm
120mm
4
13.8 mm
-
-20°C
+60°C
-
-
  • RS Stock No. 250-7627
  • หมายเลขชิ้นส่วนของผู้ผลิต / Mfr. Part No. 762100-PMD1-LIW-EN
Each
THB148,101.97
Penko
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
  • RS Stock No. 250-7629
  • หมายเลขชิ้นส่วนของผู้ผลิต / Mfr. Part No. 762100-SSD1-BLT-EN
Each
THB140,016.60
Penko
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
  • RS Stock No. 250-7630
  • หมายเลขชิ้นส่วนของผู้ผลิต / Mfr. Part No. 762100-SSD1-CHK-EN
Each
THB140,016.60
Penko
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
  • RS Stock No. 250-7633
  • หมายเลขชิ้นส่วนของผู้ผลิต / Mfr. Part No. 762100-SSD1-MFL-EN
Each
THB140,016.60
Penko
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
  • RS Stock No. 250-7628
  • หมายเลขชิ้นส่วนของผู้ผลิต / Mfr. Part No. 762100-PMD1-MFL-EN
Each
THB118,005.20
Penko
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
  • RS Stock No. 250-7625
  • หมายเลขชิ้นส่วนของผู้ผลิต / Mfr. Part No. 762100-PMD1-CHK-EN
Each
THB118,005.20
Penko
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
  • RS Stock No. 203-5189
  • หมายเลขชิ้นส่วนของผู้ผลิต / Mfr. Part No. XBH1AA0R4
Each
THB3,525.58
Schneider Electric
Current, Voltage
7 Segment LED
29.5mm
51.5mm
78.2mm
4
-
-
-
-
-
-
  • RS Stock No. 611-3376
  • หมายเลขชิ้นส่วนของผู้ผลิต / Mfr. Part No. PA220.015AX01
Each
THB6,705.85
Baumer
-
LED
-
-
-
-
-
-
-10°C
+60°C
-
-
ผลลัพธ์ต่อหน้า