- เผยแพร่เมื่อ 9 เม.ย. 2567
- แก้ไขครั้งล่าสุด 9 เม.ย. 2567
- 1 นาที
มอเตอร์โรงงาน 101: มอเตอร์ AC กับ DC ต่างกันอย่างไร
การเลือกมอเตอร์ให้ตอบโจทย์คือสิ่งที่ผู้ประกอบการควรรู้ แต่ถ้ายังไม่รู้ บทความนี้จะมาอธิบายว่ามอเตอร์ AC กับ DC ต่างกันอย่างไร รวมถึงวิธีเลือก ติดตามเลย

ถ้าเปรียบโรงงานอุตสาหกรรมคือร่างกายมนุษย์ มอเตอร์ก็คงเป็นอวัยวะสำคัญอย่าง “หัวใจ” เพราะอุปกรณ์ชิ้นนี้ทำหน้าที่ขับเคลื่อนเครื่องจักร อุปกรณ์ สายพานการผลิต และระบบต่าง ๆ ให้สามารถทำงานได้ตามที่ต้องการ อย่างไรก็ตาม มอเตอร์ก็มีทั้ง AC Motor กับ DC Motor คำถามคือมอเตอร์ AC กับ DC ต่างกันอย่างไร แล้วผู้ประกอบการจะเลือกอย่างไรให้ตอบโจทย์การใช้งาน ข้อสงสัยเหล่านี้ บทความนี้จะมาช่วยไขให้กระจ่าง ติดตามได้เลย

ประเภทของมอเตอร์
มอเตอร์ไฟฟ้า คือ อุปกรณ์ที่แปลงพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานกล โดยสามารถพบได้ในอุปกรณ์หลากหลายชนิด ตั้งแต่เครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็กไปจนถึงเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่ใช้งานในโรงงานอุตสาหกรรม และหลัก ๆ แล้วมอเตอร์จะมีด้วยกัน 2 ประเภท ได้แก่ มอเตอร์ AC กับ มอเตอร์ DC
มอเตอร์ AC
มอเตอร์ AC หรือมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ คืออุปกรณ์ไฟฟ้าที่แปลงพลังงานไฟฟ้ากระแสสลับ (Alternating Current: AC) ให้เป็นพลังงานกล มีการใช้งานอย่างแพร่หลายในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่นเครื่องใช้ไฟฟ้า และยานพาหนะต่าง ๆ
AC Motor มีหลักการทำงานโดยอาศัยหลักการของการเหนี่ยวนำแม่เหล็กไฟฟ้า มีส่วนประกอบหลัก 2 ส่วน คือ สเตเตอร์ (Stator) และโรเตอร์ (Rotor) ซึ่งเมื่อจ่ายไฟฟ้ากระแสสลับให้แก่ขดลวดสเตเตอร์จะเกิดสนามแม่เหล็กหมุนขึ้น จากนั้น สนามแม่เหล็กหมุนนี้ทำให้เกิดการเหนี่ยวนำให้เกิดกระแสไฟฟ้าในขดลวดโรเตอร์ นำไปสู่การสร้างสนามแม่เหล็กของตัวเอง ได้ผลลัพธ์เป็นพลังงานกลที่นำไปใช้ประโยชน์ต่อไป
ประเภทของมอเตอร์ AC
AC Motor มีกี่ชนิด? คำตอบคือ หลัก ๆ แล้วจะมีด้วยกัน 3 ประเภท ดังต่อไปนี้ มอเตอร์เหนี่ยวนำแบบกรงกระรอก: เป็นมอเตอร์ AC ที่นิยมใช้มากที่สุด โครงสร้างเรียบง่าย ทนทาน ราคาไม่แพง ใช้งานง่าย เหมาะกับงานทั่วไป
มอเตอร์เหนี่ยวนำแบบโรเตอร์พัน: มีประสิทธิภาพการควบคุมความเร็วที่ดีกว่ามอเตอร์เหนี่ยวนำแบบกรงกระรอก เหมาะกับงานที่ต้องการควบคุมความเร็ว เช่น ลิฟต์ เครน
มอเตอร์ซิงโครนัส: ทำงานด้วยความเร็วที่คงที่ เหมาะกับงานที่ต้องการความแม่นยำสูง เช่น เครื่องจักรกลึง เครื่องปั่นไฟ
มอเตอร์ DC
ตรงกันข้ามกับมอเตอร์กระแสสลับ เนื่องจาก DC Motor คือมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรงที่แปลงพลังงานไฟฟ้ากระแสตรง (Direct Current: DC) เป็นพลังงานกล ทำงานโดยอาศัยหลักการของแม่เหล็กไฟฟ้า โดยเมื่อกระแสไฟฟ้าไหลผ่านขดลวดที่พันอยู่บนแกนกลางจะเกิดสนามแม่เหล็กขึ้น จากนั้นสนามแม่เหล็กนี้เกิดปฏิกิริยาโต้ตอบกับสนามแม่เหล็กถาวรที่อยู่ภายในมอเตอร์ ทำให้เกิดแรงบิดที่แกนกลาง ส่งผลให้มอเตอร์หมุน
ประเภทของมอเตอร์ DC
- มอเตอร์ DC แปรงถ่าน: เป็นมอเตอร์ DC แบบดั้งเดิมที่มีแปรงถ่านและคอมมิวเตเตอร์ มอเตอร์ชนิดนี้มีราคาถูก แต่มีเสียงรบกวนและสึกหรอได้ง่าย
- มอเตอร์ DC ไร้แปรงถ่าน: มอเตอร์ชนิดนี้ไม่มีแปรงถ่านและคอมมิวเตเตอร์ โดยใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ควบคุมทิศทางของกระแสไฟฟ้า จึงมีราคาแพงกว่า แต่เสียงรบกวนก็น้อยกว่าและสึกหรอช้ากว่าเช่นกัน
- มอเตอร์ Stepper: มอเตอร์ชนิดนี้หมุนเป็นขั้นตอน มักใช้ในงานที่ต้องการความแม่นยำสูง เช่น เครื่องพิมพ์ 3 มิติ

มอเตอร์ AC กับ DC ต่างกันอย่างไร
<br>มอเตอร์ AC <br> | <br>มอเตอร์ DC<br> | |
---|---|---|
<br>แหล่งจ่ายไฟ <br> | <br>ทำงานกับไฟฟ้ากระแสสลับ (220V) <br> | <br>ทำงานกับไฟฟ้ากระแสตรง (12V) <br> |
<br>โครงสร้าง <br> | <br>โครงสร้างซับซ้อน มีขดลวดโรเตอร์และสเตเตอร์ <br> | <br>โครงสร้างเรียบง่าย มีขดลวดโรเตอร์เพียงตัวเดียว <br> |
<br>แรงบิด <br> | <br>แรงบิดสูง เหมาะกับงานหนัก <br> | <br>แรงบิดปานกลาง เหมาะกับงานเบา <br> |
<br>เสียงรบกวน <br> | <br>เสียงดังกว่ามอเตอร์ DC <br> | <br>เสียงเงียบ เหมาะกับงานที่ต้องการความเงียบ <br> |
<br>การควบคุมความเร็ว <br> | <br>ควบคุมความเร็วได้ยาก <br> | <br>ควบคุมความเร็วได้ง่ายกว่า <br> |
<br>รูปแบบการใช้งาน <br> | <br>เหมาะกับงานที่ต้องการแรงบิดสูง ความเร็วคงที่ ทนทาน และใช้งานหนัก เช่น ปั๊มน้ำ พัดลม เครื่องปรับอากาศ สายพานลำเลียง <br> | <br>เหมาะกับงานที่ต้องการควบคุมความเร็วรอบ ตอบสนองฉับไว ควบคุมทิศทางได้ง่าย เช่น ยานพาหนะไฟฟ้า โรบอต เครื่องจักรกลึง <br> |
<br>งบประมาณ <br> | <br>โดยทั่วไป ราคาถูกกว่ามอเตอร์ DC <br> | <br>มีราคาสูงกว่า แต่ควบคุมได้แม่นยำ ใช้งานหลากหลาย <br> |
RS ครบครันด้านมอเตอร์ และอุปกรณ์ควบคุมอัตโนมัติสำหรับอุตสาหกรรม
เมื่อรู้กันไปแล้วว่า มอเตอร์ AC กับ DC ต่างกันอย่างไร รวมถึงมีหลักการทํางานอย่างไร ดังนั้น สำหรับผู้ประกอบการที่มองหามอเตอร์คุณภาพสูง ได้มาตรฐาน ไม่ว่าจะเป็นมอเตอร์ AC หรือ DC รวมถึงอุปกรณ์ควบคุมอัตโนมัติต่าง ๆ ที่ RS ก็มีจำหน่ายแบบครบครัน ตอบทุกโจทย์ความต้องการ เพราะกว่า 84 ปีมาแล้วที่ RS ให้บริการด้านโซลูชันอุตสาหกรรมและอิเล็กทรอนิกส์ เราดูแลลูกค้าอุตสาหกรรมมากกว่า 160 ประเทศทั่วโลก ด้วยสินค้าคุณภาพสูง และการให้บริการอย่างมืออาชีพ เรามีเครื่องมือวัดด้านอุตสาหกรรมและอุปกรณ์เสริมในการควบคุมเครื่องจักรอุตสาหกรรมที่หลากหลายและครอบคลุมมากที่สุด ตอบโจทย์ทุกความต้องการ รวมถึงสินค้าของเรามีคุณภาพ ได้มาตรฐาน แข็งแรงทนทาน และสามารถใช้งานได้ยาวนาน โดยสามารถเลือกซื้อสินค้ากว่า 700,000 รายการของเราได้ตลอด 24 ชม. ผ่านเว็บไซต์ หรือปรึกษาเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญของเราได้เลย
สินค้าขายดี
Schneider Electric
Schneider Electric ผู้นำด้านระบบออโตเมชัน จำหน่ายอุปกรณ์ควบคุมอัตโนมัติ (Automation & Control Gear) สำหรับงานอุตสาหกรรม มีประสิทธิภาพสูง ผลิตด้วยเทคโนโลยีทันสมัย ช่วยควบคุมการทำงานของระบบไฟฟ้าในโรงงาน และยกระดับความปลอดภัยให้ธุรกิจ