Cutters

คีมตัดลวด คีมตัดสายไฟฟ้ามาตรฐานอุตสาหกรรม

คีมตัดลวด หรือกรรไกรตัดลวด เป็นอุปกรณ์สำหรับถือหรือจับยึดไว้ด้วยมือ ออกแบบมาสำหรับตัดสายเคเบิลและลวด รวมถึงวัสดุต่าง ๆ เช่น โลหะ พลาสติก และอื่น ๆ คีมตัดสายไฟฟ้าโดยทั่วไปประกอบด้วยคานสองอันที่เชื่อมต่อกันที่จุดหมุนใกล้กับปลายด้านหนึ่ง โดยส่วนที่สั้นกว่าจะเป็นกราม คีมตัดลวดมีหลากหลายประเภทและขนาด โดยมี 3 รูปแบบพื้นฐาน คือ แบบล็อกได้ แบบปรับได้ และแบบปรับไม่ได้

เพื่อให้มั่นใจในความสะดวกสบายและความปลอดภัยของผู้ใช้ คีมตัดสายไฟและคีมตัดเคเบิลส่วนใหญ่จะมีด้ามจับที่หุ้มฉนวน ช่วยปกป้องผู้ใช้ขณะทำงานและทำให้จับได้มั่นคงและสบาย นอกเหนือจากฉนวนมาตรฐานแล้ว คีมตัดลวดไฟฟ้าบางรุ่นจะมีฉนวน VDE เพื่อป้องกันผู้ใช้งานจากอุปกรณ์ไฟฟ้าที่อาจมีไฟฟ้าไหลผ่าน

คีมตัดสายไฟฟ้าใช้ทำอะไร ?

แม้ว่าชื่ออาจค่อนข้างชัดเจน แต่คีมตัดสายไฟบางรุ่นยังสามารถใช้ทำงานอื่น ๆ ได้อีกด้วย ตัวอย่างเช่น คีมตัดสายไฟแบบ Linesmans ซึ่งมีส่วนแบนเล็ก ๆ ตามแนวปากคีม เพื่อจับวัตถุเช่นเดียวกับพื้นผิวสำหรับตัด การใช้งานจะเป็นตัวกำหนดว่าคีมตัดลวดประเภทใดเหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ

ประเภทของคีมตัดลวด

กรรไกรตัดลวดและคีมตัดสายไฟฟ้า มีหลายประเภทให้เลือกใช้ตามลักษณะงาน ทั้งช่างมืออาชีพและคนทำงานบ้านสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยแต่ละแบบมีจุดเด่นเฉพาะตัว ดังนี้

คีมตัดแบบทแยงมุม (Diagonal Cutters/Side Cutters)

คีมตัดแบบทแยงมุม เป็นคีมที่ใช้งานได้หลากหลาย เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการจับ การต่อสาย และการตัดลวดไฟฟ้า รวมถึงการปอกฉนวนลวด คีมตัดแบบทแยงมุมมีขอบตัดที่ตั้งในมุมเอียง ช่วยให้สามารถตัดได้เรียบร้อยในพื้นที่แคบ โดยที่คีมตัดสายไฟ 8 นิ้วประเภทนี้ใช้การกดแรงเฉพาะจุดในการตัด ทำให้ได้รอยตัดที่เรียบร้อยกว่าการใช้มีดหรือกรรไกรตัดสายไฟ

คีมตัดปลาย (End Cutters/Nippers)

คีมตัดปลาย หรือที่เรียกว่า Nippers ออกแบบมาสำหรับการตัดวัสดุชิดกับพื้นผิว เหมาะอย่างยิ่งสำหรับตัดลวดเหล็ก สปริง ตะปู สลักเกลียว และหมุดย้ำ ขอบตัดที่เกือบแบนช่วยให้สามารถตัดได้อย่างแม่นยำโดยไม่ทำให้วัสดุโดยรอบเสียหาย

คีมตัดลวดสลิง (Wire Rope Cutters)

คีมตัดลวดออกแบบมาสำหรับการตัดลวดสลิงและเคเบิลอย่างแม่นยำโดยไม่ทำให้เกิดการรุ่ยหรือเสียรูปทรง ปากคีมมักมีรูปทรงโค้งที่ช่วยประคองเคเบิลและทำให้มั่นใจได้ว่าการตัดจะสะอาดและเรียบเสมอกัน

คีมตัดปลายแหลมหรือปลายเข็ม (Needle-Nose Pliers with Cutters)

คีมตัดปลายแหลมหรือปลายเข็ม รวมการทำงานของคีมปลายเข็มกับขอบตัด เครื่องมือนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการจับวัตถุขนาดเล็กและการตัดอย่างแม่นยำในพื้นที่จำกัด ปากคีมที่ยาวและบางช่วยให้ควบคุมและเคลื่อนไหวได้อย่างยอดเยี่ยม

กรรไกรตัดสายไฟ หรือคีมตัดลวด (Electrical Wire Cutters)

ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับงานไฟฟ้า กรรไกรตัดสายไฟเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อตัดและปอกสายไฟและเคเบิลอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ แม้ว่าคีมตัดลวดบางรุ่นอาจจะมีด้ามจับที่หุ้มด้วยวัสดุเพื่อเพิ่มความสบายในการใช้งาน แต่สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่าการเคลือบด้วยพลาสติกหรือยางนั้นไม่ได้รับประกันว่าเป็นฉนวนไฟฟ้า จึงควรมองหาคีมตัดที่มีการรับรองระดับฉนวนเสมอ

คีมตัดสายไฟแบบ Linesmans (Linesman's Pliers)

คีมตัดสายไฟแบบ Linesmans เป็นที่นิยมในหมู่ช่างไฟฟ้าและช่างเทคนิคด้านการสื่อสาร คีมตัดสายไฟแบบ Linesmans รวมการทำงานของการจับ การตัด และการตอก ให้เป็นเครื่องมืออเนกประสงค์เพียงชิ้นเดียว มีพื้นผิวสำหรับจับขนาดสั้นที่ปลายปากคีม และพื้นผิวสำหรับตัดที่ยาวไปจนถึงจุดหมุนของคีม โดยเฉพาะอย่างยิ่งคีมตัดสายไฟ 6 นิ้ว ที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการตัดและปอกสายไฟ รวมถึงการบิดสายไฟเข้าด้วยกัน

คีมตัดสายไฟฟ้าอเนกประสงค์ (Multi-Function Electrical Cutters)

คีมตัดสายไฟฟ้าอเนกประสงค์นี้รวมการทำงานหลายอย่างเข้าด้วยกัน เช่น การตัด การปอก การบีบ และการทำห่วงลวด คีมอเนกประสงค์ช่วยลดความจำเป็นในการพกพาเครื่องมือหลายชิ้น ทำให้เป็นตัวเลือกที่สะดวกสำหรับช่างไฟฟ้าและช่างเทคนิคที่ต้องทำงานหลากหลายในงานเดียวกัน

ตัวอย่างการใช้คีมตัดสายไฟฟ้าในงานอุตสาหกรรมต่าง ๆ

• งานไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ คีมตัดสายไฟสำหรับงานช่างที่มีคุณภาพสูงจะช่วยให้งานติดตั้งและซ่อมแซมระบบไฟฟ้าในบ้านหรืออาคารเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย ซึ่งช่างไฟฟ้ามักใช้คีมตัดสายไฟ 10 นิ้ว หรือคีมตัดสายไฟฟ้าแรงสูงกับงานระบบไฟฟ้าอาคาร ส่วนงานอิเล็กทรอนิกส์ขนาดเล็กนิยมใช้คีมตัดลวดขนาดเล็กที่แม่นยำสำหรับตัดสายบนแผงวงจร
• งานก่อสร้างและงานโครงสร้าง คีมตัดลวดเหล็กเป็นอุปกรณ์จำเป็นสำหรับตัดลวดเหล็กเสริมคอนกรีต ช่างก่อสร้างมักใช้คีมตัดสายไฟ 8 นิ้ว กับงานตัดลวดผูกเหล็กหรือลวดตาข่ายทั่วไป
• งานช่างยนต์และซ่อมบำรุง คีมตัดสายไฟ 6 นิ้ว เหมาะสำหรับเข้าถึงพื้นที่แคบในห้องเครื่องยนต์ ส่วนงานซ่อมบำรุงเครื่องจักรต้องใช้คีมตัดลวดที่แข็งแรงสำหรับตัดสายควบคุมหรือลวดเหล็ก
• งานโทรคมนาคมและเน็ตเวิร์ก ช่างเทคนิคใช้คีมตัดสายไฟฟ้าที่แม่นยำสูง เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่อสายใยแก้วนำแสงหรือสายทองแดง
• งานเกษตรกรรมและปศุสัตว์ เกษตรกรใช้คีมตัดลวดเหล็กในการตัดลวดรั้ว ซ่อมอุปกรณ์ หรือติดตั้งระบบกันสัตว์ โดยต้องเลือกรุ่นที่ทนสภาพอากาศและการใช้งานหนัก
• งานโรงงานและการผลิต คีมตัดลวดสำหรับงานอุตสาหกรรม มีความสำคัญในกระบวนการผลิตที่ต้องตัดวัสดุโลหะ เช่น ในอุตสาหกรรมรถยนต์และอุตสาหกรรมผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ต้องการความแม่นยำในการตัดลวดทองแดง และในงานประกอบแผงควบคุมที่ต้องการคีมตัดที่ทนทานต่อการใช้งานต่อเนื่อง คีมประเภทนี้มักมีการออกแบบพิเศษที่ช่วยลดความเมื่อยล้าของผู้ปฏิบัติงานในสายการผลิตที่ต้องทำงานซ้ำ ๆ ตลอดทั้งวัน

แนวทางการเลือกซื้อคีมตัดลวด

• วัสดุและความแข็งแรง คีมตัดลวดคุณภาพดีมักผลิตจากเหล็กกล้าคาร์บอนสูงหรือโครเมียม-วานาเดียมที่ผ่านการชุบแข็ง ช่วยให้คม ทน และแข็งแรง
• ขนาดและความเหมาะสมกับงาน คีมตัดสายไฟ 6 นิ้ว เหมาะกับพื้นที่แคบ คีมตัดสายไฟ 8 นิ้ว เหมาะกับงานทั่วไป และคีมตัดสายไฟ 10 นิ้ว เหมาะกับงานหนักที่ต้องตัดสายขนาดใหญ่
• ฉนวนและความปลอดภัย งานไฟฟ้าควรเลือกคีมตัดที่มีฉนวนหุ้มและได้มาตรฐาน IEC 60900 สำหรับการทำงานกับไฟฟ้าแรงดันสูงถึง 1,000V AC
• แรงตัดและความคม คีมตัดที่ดีควรใช้แรงน้อยและให้รอยตัดที่คม ระบบคานช่วยจะเพิ่มประสิทธิภาพและลดความเมื่อยล้า
• การออกแบบด้ามจับ ควรเลือกด้ามจับที่ออกแบบตามหลักการยศาสตร์ วัสดุเคลือบควรให้สัมผัสที่นุ่มแต่มั่นคง ไม่ลื่นเมื่อเปียกหรือมีคราบน้ำมัน
• มาตรฐานและการรับประกัน คีมตัดลวดควรผ่านมาตรฐาน ISO, ANSI หรือ DIN การรับประกันที่ดีเป็นสัญญาณของความมั่นใจในคุณภาพจากผู้ผลิต

คีมตัดสายไฟฟ้า คีมตัดลวดคุณภาพสูงจากแบรนด์ชั้นนำ ในราคาคุ้มค่า เลือกซื้อที่ RS พร้อมบริการจัดส่งทั่วประเทศ

RS มีคีมตัดลวดคุณภาพสูงจากแบรนด์ชั้นนำที่ได้มาตรฐานความปลอดภัยสากล เช่น Knipex, SAM, Facom, Lindstrom และแบรนด์ RS PRO มีให้เลือกครบทั้งคีมตัดสายไฟ 6 นิ้วสำหรับงานละเอียด คีมตัดสายไฟ 8 นิ้วสำหรับงานทั่วไป และคีมตัดสายไฟ 10 นิ้วสำหรับงานหนัก นอกจากนี้ยังมีคีมตัดสายไฟฟ้าแรงสูงด้ามหุ้มฉนวนสองชั้น คีมตัดสายไฟแรงดันสูงสำหรับช่างไฟฟ้า และคีมตัดลวดสำหรับงานอุตสาหกรรมที่แข็งแรงทนทาน สั่งซื้อออนไลน์ได้ตลอด 24 ชม. พร้อมบริการจัดส่งทั่วประเทศ หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อเลือกอุปกรณ์ให้เหมาะสมกับการใช้งานของคุณ