เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต
Smart Factory 4.0 มาพร้อมกับ Smart Manufacturing หรือก็คือการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลขั้นสูง เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI) หุ่นยนต์ การวิเคราะห์ข้อมูล (Big Data) คลาวด์คอมพิวติ้ง และอินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง (IoT) เข้ากับกระบวนการผลิต ช่วยให้สามารถติดตามและควบคุมกระบวนการผลิตได้อย่างแม่นยำ ทำให้สามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ลดต้นทุน
ถึงแม้ว่าในช่วงแรกจะต้องลงทุนสูงกว่าโรงงานทั่วไป แต่ในระยะยาวโรงงานอัจฉริยะ 4.0 สามารถช่วยลดต้นทุนได้อย่างมาก เช่น ลดการใช้พลังงาน ลดการใช้แรงงาน ลดการสูญเสียวัตถุดิบ และลดความผิดพลาดในการผลิต
คุณภาพสินค้าที่ดียิ่งขึ้น
เมื่อมีระบบ Smart Factory 4.0 ก็สามารถควบคุมคุณภาพสินค้าได้อย่างแม่นยำกว่าระบบเก่ามาก ดังนั้น สินค้าจึงมีความสม่ำเสมอ ตรงตามมาตรฐาน และสามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ ช่วยสร้างความมั่นใจให้แก่ลูกค้า ตลอดจนมีข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับสินค้าและกระบวนการผลิตที่สามารถพัฒนาคุณภาพให้ดียิ่งขึ้นได้ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน
เพิ่มความยืดหยุ่น พร้อมรับสำหรับสถานการณ์ไม่คาดฝัน
ในยุคที่เทรนด์ผู้บริโภคเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ผู้ประกอบการคนใดมีระบบโรงงานอัจฉริยะ 4.0 ก็ย่อมได้เปรียบ เพราะสามารถปรับเปลี่ยนกระบวนการผลิตได้อย่างรวดเร็ว ตอบสนองต่อความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ รวมไปถึงความพร้อมรับมือกับสถานการณ์ไม่คาดฝัน เช่น ภัยพิบัติ หรือการขาดแคลนวัตถุดิบ
ความปลอดภัยและความยั่งยืนที่มากขึ้น
นอกจากจะยกระดับประสิทธิภาพการผลิต เพิ่มผลกำไรแล้ว Smart Factory 4.0 ยังทำให้คุณภาพชีวิตของพนักงานดีขึ้นด้วยเช่นกัน เพราะระบบที่ควบคุมโดยปัญญาประดิษฐ์ย่อมเกิดข้อผิดพลาดที่น้อยกว่า หรือแทบไม่มีเลย ความปลอดภัยในสถานที่ทำงานจึงเพิ่มขึ้น ลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ และเกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด