Storage Cabinets

ตู้เก็บของโรงงานอุตสาหกรรม ตอบโจทย์ทุกโซลูชันการจัดเก็บ

ภายในโรงงานอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นสายการผลิตอิเล็กทรอนิกส์ โลจิสติกส์อัตโนมัติ อุตสาหกรรมยานยนต์ หรือคลังเก็บสินค้า ชิ้นส่วนและเครื่องมือจำนวนมากมักมีการใช้งานหมุนเวียนตลอดเวลา หากไม่มีระบบจัดเก็บที่ดี สิ่งของเหล่านี้มักจะกระจัดกระจาย ส่งผลให้พื้นที่ทำงานไม่เป็นระเบียบ การค้นหาอุปกรณ์ล่าช้า เสียเวลาการผลิต รวมถึงเกิดความเสี่ยงด้านความปลอดภัยต่อพนักงาน ตู้เก็บของสำหรับโรงงานอุตสาหกรรม หรือ Storage Cabinets จึงเป็นองค์ประกอบที่สำคัญอย่างยิ่ง เพื่อเสริมประสิทธิภาพของพื้นที่ เพิ่มความปลอดภัย และยกระดับมาตรฐาน 5ส (สะสาง สะดวก สะอาด สุขลักษณะ สร้างนิสัย) ให้เป็นรูปธรรมที่ตรวจสอบได้

ตู้เก็บของโรงงานอุตสาหกรรมต้องมีคุณสมบัติพิเศษอย่างไร ?

ตู้เก็บของสำหรับงานอุตสาหกรรมต้องมีคุณสมบัติที่เหนือกว่าตู้เก็บของทั่วไปที่ใช้ในบ้านหรือสำนักงาน เพื่อรองรับสภาวะแวดล้อมที่หนักหน่วงในโรงงานได้ ดังนี้

  • ความแข็งแกร่งของโครงสร้าง : ต้องออกแบบมาเพื่อรองรับน้ำหนักปริมาณมากได้ โดยไม่เสียรูปทรง โดยเฉพาะตู้เหล็กเก็บของซึ่งต้องใช้แผ่นเหล็กที่มีความหนาและเกรดที่ได้มาตรฐาน เพื่อความทนทานต่อแรงกระแทกและการใช้งานที่หนักหน่วง
  • ความทนทานต่อสภาพแวดล้อม : พื้นที่การผลิตมักมีความชื้น ฝุ่น ละอองน้ำมัน หรือสารเคมี ตู้เก็บของอุตสาหกรรมจึงมักมีการเคลือบผิวพิเศษ เช่น การพ่นสีฝุ่นเพื่อป้องกันสนิม การกัดกร่อน และรอยขีดข่วน
  • ความปลอดภัยขั้นสูง : การเก็บรักษาเครื่องมือราคาแพงหรือชิ้นส่วนสำคัญ จำเป็นต้องมีระบบล็อกที่แน่นหนา ทั้งแบบกุญแจหรือรหัส เพื่อป้องกันการสูญหายและการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งแตกต่างจากพลาสติกบางประเภทที่งัดแงะได้ง่าย
  • การออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ : ต้องมีความสูง ความลึก และกลไกการเปิด-ปิด (เช่น รางเลื่อนลิ้นชักระบบลูกปืน) ที่ช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานหยิบจับของได้ง่าย ลดความเสี่ยงในการบาดเจ็บจากการยกของหรือเอื้อมหยิบในท่าทางที่ไม่เหมาะสม

ตู้เก็บของมีประโยชน์อย่างไรในโรงงานอุตสาหกรรม ?

  1. เพิ่มพื้นที่ใช้สอย : ตู้เก็บของช่วยรวบรวมชิ้นส่วนที่กระจัดกระจายมาไว้ในที่เดียว ช่วยเคลียร์พื้นที่บริเวณรอบ Workstation ทำให้มีพื้นที่สำหรับการทำงานจริงมากขึ้น
  2. ลดเวลาในการค้นหา : เมื่อเครื่องมือมีการจัดเก็บแยกประเภทอย่างชัดเจน พนักงานไม่ต้องเสียเวลาเดินหาอุปกรณ์ ช่วยลดความสูญเปล่าในกระบวนการทำงาน
  3. ความปลอดภัยในการทำงาน : การเก็บเครื่องมือและวัสดุให้เข้าที่ ช่วยลดอุบัติเหตุจากการสะดุดล้ม หรือของตกหล่นใส่ นอกจากนี้ ตู้เหล็กยังมีความแข็งแรง ทนทาน เหมาะสำหรับเก็บวัตถุที่มีน้ำหนักมาก หรือสารเคมีอันตรายที่ต้องแยกการจัดเก็บ
  4. การควบคุมทรัพย์สิน : ตู้ที่มีระบบล็อก (Lockable Storage Cabinet) ช่วยป้องกันการสูญหายของ เครื่องมือช่าง ที่มีราคาสูง และช่วยให้การตรวจสอบสต๊อกสินค้าคงคลัง ทำได้ง่ายและแม่นยำขึ้น
  5. สร้างมาตรฐาน 5ส : ตู้เก็บของคือหัวใจของการทำ 5ส (สะสาง สะดวก สะอาด สุขลักษณะ สร้างนิสัย) ช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่โรงงาน และสร้างวินัยในการทำงาน

ตู้เก็บของโรงงานอุตสาหกรรมมีกี่ประเภท ?

เพื่อให้ครอบคลุมการใช้งานตั้งแต่ไลน์ผลิต ห้องซ่อมบำรุง ไปจนถึงคลังสินค้า ตู้เก็บของแบ่งออกเป็นประเภทหลัก ๆ ดังนี้

แบ่งตามวัสดุ

  • ตู้เหล็กใส่ของ (Steel Storage Cabinets) : ได้รับความนิยมสูงสุดในงานอุตสาหกรรม ผลิตจากเหล็กกล้า ให้ความปลอดภัยและแข็งแรงทนทานตามธรรมชาติ เหมาะสำหรับการรับน้ำหนักมาก งานเครื่องจักรหนัก และต้องการอายุการใช้งานที่ยาวนาน
  • ตู้เก็บของพลาสติก (Plastic Cabinets) : เหมาะสำหรับงานเบา งานในสำนักงานโรงงาน หรือพื้นที่ที่มีความชื้นสูงและเสี่ยงต่อการเกิดสนิม แต่ข้อจำกัดคือรับน้ำหนักได้น้อยกว่าและระบบความปลอดภัยอาจไม่เท่าตู้เหล็ก

แบ่งตามฟังก์ชันการใช้งาน

  • ตู้เก็บของแบบมีล้อ (Mobile Cabinets) : ออกแบบมาเพื่อให้เคลื่อนย้ายเครื่องมือไปยังจุดต่าง ๆ ได้สะดวก เหมาะสำหรับงานซ่อมบำรุงที่ต้องเปลี่ยนจุดทำงานบ่อย ๆ
  • ตู้เก็บของติดผนัง (Wall Mount Cabinets) : ช่วยประหยัดพื้นที่บนพื้น เหมาะสำหรับการเก็บเครื่องมือขนาดเล็กหรืออุปกรณ์ปฐมพยาบาล
  • ตู้เหล็กลิ้นชักอุตสาหกรรม (Modular Drawer Cabinets) : เน้นการจัดเก็บชิ้นส่วนขนาดเล็กจำนวนมาก ลิ้นชักสามารถดึงออกมาได้สุดและรับน้ำหนักได้สูง
  • ตู้เก็บสารเคมี (Hazardous Storage Cabinets) : ตู้เหล็กเก็บอุปกรณ์ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับเก็บสารไวไฟหรือสารกัดกร่อน มีสีและสัญลักษณ์เตือนชัดเจนตามมาตรฐานความปลอดภัย

แบ่งตามรูปแบบประตู (Door Type)

  • ตู้เหล็กแบบ 2 บาน (Double Door Metal Cabinets) : ถือเป็นตู้เหล็กเก็บของอเนกประสงค์ที่เป็นมาตรฐานหลักของทุกโรงงาน จุดเด่นคือบานประตูคู่ที่เปิดกว้างได้เกือบ 180 องศา ทำให้เข้าถึงพื้นที่จัดเก็บได้เต็มที่
  • ตู้เก็บของแบบประตูบานเปิด (Storage Cabinet with Swing Doors) : รูปแบบมาตรฐาน เข้าถึงของได้เต็มที่
  • ตู้เก็บของแบบประตูบานเลื่อน (Storage Cabinet with Sliding Doors) : เหมาะสำหรับพื้นที่แคบที่ไม่สามารถเปิดบานประตูออกมารบกวนทางเดินได้
  • ตู้เก็บของประตูม้วน (Storage Cabinet with Roller Shutter/Garage style) : สะดวก ประหยัดพื้นที่ และมีความทนทานสูง

คู่มือการเลือกตู้เก็บของให้เหมาะกับความต้องการ

  • ประเมินขนาดและสิ่งที่ต้องการจัดเก็บ : ขนาดของตู้ต้องสัมพันธ์กับสิ่งของที่ต้องการเก็บ หากเป็นเครื่องมือหนักหรือแม่พิมพ์ ต้องเลือกตู้เหล็กที่ระบุพิกัดการรับน้ำหนักชัดเจน
  • พิจารณาวัสดุและสภาพแวดล้อม : สภาพแวดล้อมเป็นตัวกำหนดวัสดุ หากใช้งานในส่วนสำนักงานโรงงาน ตู้พลาสติกอาจเพียงพอและช่วยประหยัดต้นทุน แต่ถ้าอยู่ในไลน์ผลิตที่มีเครื่องจักรหนัก หรือมีความเสี่ยงต่อการกระแทก ตู้เหล็กคือตัวเลือกที่เหมาะสมกว่า
  • ความคล่องตัวในการใช้งาน : ต้องพิจารณาว่างานของคุณอยู่กับที่หรือต้องเคลื่อนที่ หากเป็นทีมช่างซ่อมบำรุงรถยนต์ หรือช่างไฟ ที่ต้องนำเครื่องมือไปหน้างาน การเลือกตู้เก็บของที่มีล้อเลื่อนจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพงานได้มหาศาล แต่ถ้าใช้งานประจำจุดการใช้ตู้ตั้งพื้นหรือยึดผนังจะมั่นคงกว่า
  • ระบบความปลอดภัยและการเข้าถึง : เลือกประเภทประตูให้เหมาะกับพื้นที่ หากพื้นที่ทางเดินแคบ ควรใช้ประตูบานเลื่อน และหากเก็บเครื่องมืออันตรายหรือมีมูลค่า ต้องเลือกตู้ที่มีระบบล็อกที่ได้มาตรฐาน ซึ่งตู้เหล็กจะให้ความปลอดภัยสูงสุด
  • รูปแบบการจัดเก็บภายใน :ตู้เก็บของบางรุ่นมาพร้อมชั้นวางมาตรฐาน บางรุ่นเป็นตู้เก็บของ 4 ชั้นมีแผงแขวนเครื่องมือ การเลือกตู้แบบ Modular ที่สามารถปรับเปลี่ยนภายในได้จะช่วยให้คุณปรับแต่งตู้ให้เข้ากับขนาดของชิ้นงานได้อย่างอิสระ

ตัวอย่างการนำตู้เก็บของไปใช้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ

  • อุตสาหกรรมยานยนต์และซ่อมบำรุง : นิยมใช้ตู้เหล็กล้อเลื่อนที่มีลิ้นชักหลายชั้น เพื่อแยกประแจ ไขควง และอะไหล่รถยนต์ เข็นไปทำงานข้างตัวรถได้ทันที
  • อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ : ใช้ตู้เก็บของที่มีคุณสมบัติป้องกันไฟฟ้าสถิต เพื่อจัดเก็บชิ้นส่วนวงจรที่ละเอียดอ่อน ป้องกันความเสียหายจากประจุไฟฟ้า
  • อุตสาหกรรมเคมีและห้องแล็บ : จำเป็นต้องใช้ตู้เหล็กนิรภัยสำหรับเก็บสารเคมีแยกตามประเภท (กรด, ด่าง, ไวไฟ) พร้อมระบบระบายอากาศเพื่อความปลอดภัยสูงสุด
  • คลังสินค้าและโลจิสติกส์ : ใช้ตู้เก็บของขนาดใหญ่ หรือตู้ตะแกรงเหล็ก เพื่อเก็บอุปกรณ์แพ็กกิ้ง เทปกาว และเอกสารใบส่งของ ให้เป็นระเบียบและตรวจสอบสต๊อกง่าย

เลือกซื้อตู้เก็บของสำหรับโรงงานอุตสาหกรรมคุณภาพสูง จากแบรนด์ชั้นนำที่ RS

ผู้ประกอบการคนไหนกำลังมองหาแหล่งจำหน่ายตู้เก็บของราคาคุ้มค่า และมีตัวเลือกครบครัน ต้องมาที่ RS ผู้นำด้านโซลูชันอุตสาหกรรมและอิเล็กทรอนิกส์ เรามีตู้เก็บของสำหรับโรงงานอุตสาหกรรมคุณภาพสูงหลากหลายประเภท คัดสรรจากแบรนด์ชั้นนำที่ได้มาตรฐานมาให้เลือกซื้ออย่างสะดวก เช่น Bott, DeWALT, รวมถึงแบรนด์ของเราเองอย่าง RS PRO มีตู้เหล็กราคาปลีกและราคาส่ง นอกจากนี้ เรายังมีจำหน่ายอุปกรณ์การจัดเก็บและชั้นวางครอบคลุมทุกความต้องการของผู้ประกอบการ เลือกซื้อสินค้าได้สะดวกตลอด 24 ชั่วโมงบนเว็บไซต์ของเรา พร้อมบริการจัดส่งทั่วประเทศไทย หากต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเลือกซื้อตู้เก็บของที่เหมาะสมกับอุตสาหกรรมของคุณ สามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์ของเราได้เลย

108 สินค้าที่แสดงสำหรับ Storage Cabinets

ผลลัพธ์ต่อหน้า

การค้นหายอดนิยม