Routers

เราเตอร์อินเทอร์เน็ตคุณภาพสูง สำหรับการใช้งานในอุตสาหกรรม

เมื่อระบบควบคุมอัตโนมัติ (Industrial Automation) และการสื่อสารแบบเครื่องสู่เครื่อง (M2M Communication) กลายเป็นหัวใจหลักของการดำเนินงานภาคอุตสาหกรรม ระบบเครือข่ายจึงต้องมีความเสถียร ปลอดภัย และพร้อมใช้งานตลอดเวลา “เราเตอร์อินเทอร์เน็ต (Internet Router)” ที่ใช้งานในโรงงานจึงไม่สามารถเป็นแบบเดียวกับที่ใช้ในบ้านได้ เพราะสภาพแวดล้อมที่ต่างกัน ความต้องการที่เฉพาะทาง และความสำคัญของข้อมูลที่ไหลเวียนในระบบต้องการอุปกรณ์ที่เชื่อถือได้ในระดับอุตสาหกรรม

เราเตอร์อินเทอร์เน็ตคืออะไร ?  

เราเตอร์อินเทอร์เน็ต หรือโมเด็มเราเตอร์ คืออุปกรณ์เครือข่ายที่ช่วยให้เครื่องมือภายในอาคารสามารถเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตได้ โดยโมเด็มเราเตอร์จะรวมฟังก์ชันของโมเด็มและเราเตอร์ไว้ในอุปกรณ์เดียวกัน โมเด็มทำหน้าที่รับบริการอินเทอร์เน็ตจากผู้ให้บริการเข้ามายังบ้านหรือสำนักงาน จากนั้นข้อมูลจะถูกส่งต่อไปยังเราเตอร์ ซึ่งจะกระจายสัญญาณอินเทอร์เน็ตให้แก่อุปกรณ์ WiFi ต่าง ๆ เช่น แล็ปท็อปหรือสมาร์ตโฟน การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตนี้ประกอบด้วยข้อมูลแพ็กเก็ต เช่น อีเมลหรือหน้าเว็บไซต์ ซึ่งมี IP Address ระบุปลายทางของข้อมูลให้เราเตอร์ทราบ

นอกจากการกระจายสัญญาณแล้ว โมเด็มเราเตอร์ยังมีหน้าที่ในการกำหนด IP Address ให้แก่อุปกรณ์ภายในเครือข่าย, วางเส้นทางของข้อมูล, ควบคุมความปลอดภัยของระบบด้วย Firewall หรือ VPN และแบ่งเครือข่ายย่อย (Segmenting) เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและประสิทธิภาพ

สำหรับเราเตอร์ในบ้านหรือสำนักงานขนาดเล็กนั้น มักใช้เพียงเพื่อส่งต่อ IP แพ็กเก็ตระหว่างคอมพิวเตอร์กับอินเทอร์เน็ต แต่ในธุรกิจขนาดใหญ่จะต้องใช้เราเตอร์ระดับองค์กรที่มีความสามารถมากกว่า เพื่อส่งข้อมูลไปในพื้นที่กว้างหรือ WAN (Wide Area Network) ซึ่งข้อมูลอาจต้องผ่านเราเตอร์หลายตัวก่อนถึงปลายทาง IP สุดท้าย

หลักการทำงานของเราเตอร์อินเทอร์เน็ต  

เราเตอร์กระจายสัญญาณ WiFi ทำงานด้วยหลักการสำคัญที่เรียกว่า "การค้นหาเส้นทาง" (Routing) ซึ่งเป็นกระบวนการตัดสินใจเลือกเส้นทางที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการส่งข้อมูลจากต้นทางไปยังปลายทาง โดยอาศัยโปรโตคอลการค้นหาเส้นทางต่าง ๆ เช่น OSPF, BGP หรือ RIP

เมื่อข้อมูล (Data Packet) เข้ามาที่โมเด็ม เราเตอร์จะทำการตรวจสอบที่อยู่ IP ปลายทาง จากนั้นจะตรวจสอบตารางเส้นทาง (Routing Table) ที่บันทึกไว้ เพื่อระบุว่าควรส่งข้อมูลนี้ออกไปทางไหน ทั้งนี้ เราเตอร์จะพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ เช่น จำนวนเครือข่ายที่ต้องผ่าน (Hop Count) ความเร็วของเส้นทาง หรือสถานะของเส้นทางนั้น ๆ ว่ายังทำงานได้ดีหรือไม่

สำหรับเราเตอร์เกรดอุตสาหกรรม ระบบการทำงานได้รับการพัฒนาให้มีความซับซ้อนมากขึ้น โดยรองรับเทคโนโลยีการเชื่อมต่อที่หลากหลาย เช่น

• การเชื่อมต่อแบบ Dual WAN สำหรับความเสถียรในการเชื่อมต่อ
• ระบบ Failover ที่สามารถสลับไปใช้ช่องทางการเชื่อมต่อสำรองได้โดยอัตโนมัติเมื่อเส้นทางหลักมีปัญหา
• เทคโนโลยี SD-WAN ที่ช่วยบริหารจัดการแบนด์วิดท์อย่างชาญฉลาด
• ระบบความปลอดภัยแบบ Deep Packet Inspection ที่ตรวจสอบเนื้อหาของข้อมูล เพื่อป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์

ประโยชน์ของเราเตอร์อินเทอร์เน็ตที่ผู้ประกอบการควรรู้  

การลงทุนในโมเด็ม WiFi คุณภาพสูงสำหรับอุตสาหกรรม นำมาซึ่งประโยชน์มากมายที่ส่งผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพการดำเนินงานและความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจ เช่น

1. เพิ่มเสถียรภาพการเชื่อมต่อ : ลดการหยุดชะงักของระบบที่อาจนำไปสู่ความเสียหายทางธุรกิจ โดยเฉพาะในกระบวนการผลิตต่อเนื่องหากการขาดการเชื่อมต่อแม้เพียงไม่กี่นาทีอาจส่งผลให้เกิดความเสียหายมหาศาล
2. ยกระดับความปลอดภัยทางไซเบอร์ : ป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์ที่มีเป้าหมายเป็นระบบอุตสาหกรรม ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ช่วยปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาและข้อมูลสำคัญ
3. รองรับการขยายตัวของระบบ IoT : เชื่อมต่อกับอุปกรณ์และเซ็นเซอร์จำนวนมากในโรงงานอัจฉริยะ (Smart Factory) เพื่อเก็บข้อมูลและควบคุมการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
4. ลดค่าใช้จ่ายในระยะยาว : แม้จะมีต้นทุนเริ่มต้นที่สูงกว่า แต่ด้วยความทนทานและประสิทธิภาพที่เหนือกว่า จึงช่วยลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาและการเปลี่ยนอุปกรณ์ในระยะยาว
5. สนับสนุนระบบควบคุมระยะไกล : เปิดโอกาสให้วิศวกรและผู้เชี่ยวชาญสามารถเข้าถึงและควบคุมระบบจากระยะไกลได้อย่างปลอดภัย ลดความจำเป็นในการเดินทางและเพิ่มความรวดเร็วในการแก้ไขปัญหา
6. รองรับเทคโนโลยีอนาคต : พร้อมสำหรับการอัปเกรดและรองรับเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น 5G, Edge Computing หรือ AI ที่จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในภาคอุตสาหกรรมมากขึ้นในอนาคต

เราเตอร์อินเทอร์เน็ตมีกี่ประเภท ?  

เราเตอร์ไร้สายสำหรับอุตสาหกรรมมีหลากหลายประเภทที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการเฉพาะทางที่แตกต่างกัน

1. เราเตอร์เซลลูลาร์ (Cellular Router) : เราเตอร์ประเภทนี้ใช้เครือข่าย 4G/5G ในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต เหมาะสำหรับพื้นที่ห่างไกลหรือที่ไม่มีโครงสร้างพื้นฐานด้านการสื่อสารแบบใช้สาย หรือต้องการความยืดหยุ่นในการติดตั้ง
2. เราเตอร์แบบ Dual SIM : เราเตอร์ WiFi แบบที่มาพร้อมช่องใส่ซิมการ์ด 2 ช่อง สามารถสลับการเชื่อมต่อระหว่างผู้ให้บริการได้โดยอัตโนมัติเมื่อเครือข่ายหลักมีปัญหา เพิ่มความเสถียรในการเชื่อมต่อ
3. เราเตอร์ VPN : มีฟังก์ชัน VPN แบบครบวงจร รองรับโปรโตคอล VPN หลากหลาย เช่น IPsec, OpenVPN, PPTP ช่วยสร้างการเชื่อมต่อที่ปลอดภัยระหว่างสาขาหรือกับสำนักงานใหญ่
4. เราเตอร์ SD-WAN : ใช้เทคโนโลยี Software-Defined WAN ในการบริหารจัดการแบนด์วิดท์อย่างชาญฉลาด เลือกเส้นทางการส่งข้อมูลตามลักษณะของแอปพลิเคชันและสภาพเครือข่ายในแต่ละขณะ
5. เราเตอร์ Edge Computing : นอกจากทำหน้าที่เป็นเราเตอร์ WiFi แล้ว ยังมีความสามารถในการประมวลผลข้อมูล ณ จุดที่เกิดข้อมูล (Edge) ลดการส่งข้อมูลไปยังศูนย์ข้อมูลกลาง เหมาะสำหรับระบบ IoT ที่ต้องการการตอบสนองแบบเรียลไทม์
6. เราเตอร์ PoE (Power over Ethernet ): สามารถจ่ายไฟผ่านสายแลนให้แก่อุปกรณ์ปลายทาง เช่น กล้อง IP, จุดกระจายสัญญาณไร้สาย หรือโทรศัพท์ VoIP ช่วยลดความซับซ้อนในการเดินสายไฟ
7. เราเตอร์ทางรถไฟ (Railway Router) : ออกแบบเฉพาะสำหรับระบบขนส่งทางราง รองรับมาตรฐาน EN 50155 ทนต่อการสั่นสะเทือนสูง และมีระบบจัดการการเชื่อมต่อที่รองรับการเคลื่อนที่ความเร็วสูง

 คู่มือการเลือกเราเตอร์อินเทอร์เน็ตให้เหมาะกับความต้องการ  

1. พื้นที่ครอบคลุม : ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเราเตอร์สามารถกระจายสัญญาณได้ครอบคลุมพื้นที่อยู่อาศัยหรือพื้นที่ทำงานของคุณอย่างเพียงพอ เพื่อให้การใช้งาน WiFi เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
2. ความเร็วที่รองรับ : ตรวจสอบว่าเราเตอร์อินเทอร์เน็ตสามารถรองรับความเร็วของบริการอินเทอร์เน็ตที่ใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น 3G, 4G หรือ 5G เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาความล่าช้าหรือการเชื่อมต่อที่ไม่เสถียร
3. จำนวนอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ : พิจารณาจำนวนอุปกรณ์ที่ต้องเชื่อมต่อพร้อมกัน เพื่อให้แน่ใจว่าเราเตอร์สามารถจัดการกับปริมาณการใช้งานได้โดยไม่เกิดปัญหา
4. คุณสมบัติด้านความปลอดภัย : เลือกเราเตอร์กระจายสัญญาณ WiFi ที่มีระบบรักษาความปลอดภัยที่แข็งแรง เช่น การเข้ารหัสแบบ WEP หรือ WPA เพื่อปกป้องเครือข่ายของคุณจากการถูกบุกรุก
5. ประเมินสภาพแวดล้อมการใช้งาน : พิจารณาว่าเราเตอร์จะถูกติดตั้งในสภาพแวดล้อมแบบใด มีความเสี่ยงต่อความร้อน ความชื้น ฝุ่น หรือการสั่นสะเทือนหรือไม่ เพื่อเลือกเราเตอร์ที่มีระดับการป้องกัน (IP Rating) ที่เหมาะสม
6. วิเคราะห์ความต้องการด้านการเชื่อมต่อ : ประเมินว่าต้องการเชื่อมต่อผ่านช่องทางใดบ้าง เช่น อีเทอร์เน็ต, 4G/5G, Wi-Fi หรือเทคโนโลยีอื่น ๆ และต้องการระบบสำรองหรือไม่
7. กำหนดความต้องการด้านแบนด์วิดท์ : คำนวณปริมาณข้อมูลที่จะถูกส่งผ่านอุปกรณ์เครือข่าย โมเด็ม และจำนวนอุปกรณ์ที่จะเชื่อมต่อ เพื่อให้แน่ใจว่าเราเตอร์มีประสิทธิภาพเพียงพอ
8. พิจารณาฟีเจอร์ด้านความปลอดภัย : ตรวจสอบว่าเราเตอร์ไร้สายมีระบบความปลอดภัยที่จำเป็น เช่น VPN, Firewall, การเข้ารหัสข้อมูล หรือระบบตรวจจับและป้องกันการบุกรุก
9. ตรวจสอบการรองรับโปรโตคอลเฉพาะทาง : หากระบบของคุณใช้โปรโตคอลเฉพาะทางอุตสาหกรรม เช่น Modbus, Profinet หรือ OPC UA ควรเลือกโมเด็ม WiFi ที่รองรับหรือสามารถปรับแต่งให้ทำงานร่วมกันได้
10. คำนึงถึงความง่ายในการบริหารจัดการ : พิจารณาว่าเราเตอร์มีระบบบริหารจัดการที่ใช้งานง่ายหรือไม่ สามารถจัดการผ่านเว็บอินเทอร์เฟซหรือซอฟต์แวร์จัดการแบบรวมศูนย์ได้หรือไม่
11. ประเมินความคุ้มค่าในระยะยาว : นอกจากราคาซื้อแล้ว ควรพิจารณาต้นทุนการใช้งานตลอดอายุการใช้งาน (TCO) ซึ่งรวมถึงค่าบำรุงรักษา, การอัพเกรดซอฟต์แวร์ และการสนับสนุนทางเทคนิค

ตัวอย่างการใช้เราเตอร์อินเทอร์เน็ตในอุตสาหกรรมต่าง ๆ  

• อุตสาหกรรมการผลิต : โรงงานผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ชั้นนำใช้เราเตอร์ 4G พร้อมระบบ VPN เพื่อเชื่อมต่อเครื่องจักร CNC และหุ่นยนต์อุตสาหกรรมเข้ากับระบบ MES (Manufacturing Execution System) ทำให้สามารถติดตามและควบคุมกระบวนการผลิตได้แบบเรียลไทม์ แม้ในจุดที่การเดินสายเคเบิลทำได้ยาก
• พลังงานและสาธารณูปโภค : บริษัทผลิตไฟฟ้าใช้เราเตอร์ความเร็วสูงที่มีระบบ Dual SIM เพื่อเชื่อมต่อกับกังหันลมที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ห่างไกล ช่วยให้วิศวกรสามารถตรวจสอบประสิทธิภาพการทำงานและทำการบำรุงรักษาเชิงป้องกันได้โดยไม่ต้องเดินทางไปยังสถานที่จริง
• ขนส่งและโลจิสติกส์ : บริษัทขนส่งติดตั้งเราเตอร์ 5G ในรถบรรทุกเพื่อติดตามตำแหน่ง, สภาพการจราจร และสถานะสินค้าแบบเรียลไทม์ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเส้นทางและลดเวลาในการขนส่ง
• เกษตรกรรมสมัยใหม่ : ฟาร์มอัจฉริยะใช้เราเตอร์กระจายสัญญาณ WiFi เพื่อเชื่อมต่อกับเซ็นเซอร์ที่ติดตามความชื้นในดิน อุณหภูมิ และระดับน้ำ ทำให้สามารถควบคุมระบบชลประทานและการจัดการฟาร์มได้อย่างแม่นยำ ช่วยประหยัดทรัพยากรและเพิ่มผลผลิต

 RS จำหน่ายเราเตอร์อินเทอร์เน็ตคุณภาพสูง ตอบโจทย์อุตสาหกรรม  

RS ผู้นำด้านโซลูชันอุตสาหกรรมและอิเล็กทรอนิกส์ เราคัดสรรเราเตอร์อินเทอร์เน็ตจากแบรนด์ชั้นนำที่ได้มาตรฐานมาให้เลือกซื้ออย่างสะดวก เช่น RS PRO, Helmholz GmbH & Co. KG, Phoenix Contact และอีกมากมาย มีเราเตอร์ทั้งราคาส่งและปลีก ครอบคลุมทุกความต้องการของผู้ประกอบการ เลือกซื้อสินค้าได้สะดวกตลอด 24 ชม. บนเว็บไซต์ของเรา พร้อมบริการจัดส่งทั่วประเทศไทย หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์ของเราเพื่อเลือกอุปกรณ์ให้เหมาะกับการใช้งานในอุตสาหกรรมของคุณได้เลย