RS Components ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกสร้างยอดขายสูงขึ้นในปี 2552

บริการเสริมต่างๆประกอบกับความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างซัพพลายเออร์ส่งผลต่อความสำเร็จในการเป็นตัวแทนจำหน่ายในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ

สิงคโปร์, 26 พฤศจิกายน 2552 :

RS Components (RS), ตัวแทนจำหน่ายสินค้าอิเล็กทรอนิกส์, อิเล็กทรอ-เมคคานิกส์และสินค้าอุตสาหกรรมชั้นนำระดับโลกเห็นว่าภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเป็นตลาดที่ได้รับผลกระทบน้อยที่สุดในช่วง 12 เดือนของสภาวะเศรษฐกิจที่ผ่านมา ในขณะที่ยอดขายโดยรวมของบริษัทหยุดชะงักจากผลกระทบทางเศรษฐกิจ ยอดขายในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกกลับยังคงเติบโตเป็นอันดับหนึ่ง โดยเฉพาะ RS ในประเทศไต้หวันและไทยที่มีอัตราการเติบโตที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ปัจจุบัน RS ให้บริการลูกค้ากว่า 300,000 รายทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และถึงแม้เศรษฐกิจจะมีการชะลอตัว RS ก็ยังคงมีลูกค้าเพิ่มขึ้นประมาณ 3,000 ถึง 4,000 รายในแต่ละเดือนตลอดปีที่ผ่านมา ลูกค้ารายหลักๆของเราได้แก่ Flextronics Manufacturing Singapore, Terasaki Electric, Sanmina Sci Systems Singapore, Maersk, Fugro Survey, Seadrill Management, Singapore Technologies Electronics, Abbott Manufacturing, ABB Industry, BHP Billiton, Rio Tinto, Panasonic Electric, Schlumberger และ Hitachi.

“ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเป็นตลาดสำคัญของบริษัทที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง เราพบว่าอัตราความถี่ในการสั่งซื้อสินค้าของลูกค้าโดยเฉลี่ยมีเพิ่มมากขึ้นหลายเปอร์เซ็นต์ใน 2-3 เดือนที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีที่แล้ว” นายริชาร์ด ฮักซ์เลย์ ผู้จัดการทั่วไปประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของ RS Components กล่าว “การสั่งซื้อสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้นเป็นตัวบ่งชี้ให้เห็นถึงการเติบโตของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ และการที่เรามีลูกค้าจากหลากหลายอุตสาหกรรมและมีจำนวนมากก็อาจเป็นสัญญาณเบื้องต้นของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจเช่นกัน”

ปัจจุบันนี้ RS จัดส่งสินค้าประมาณ 65,000 ชิ้นต่อเดือนให้ลูกค้าทั่วภูมิภาค และยังคงพัฒนาปรับปรุงบริการเสริมต่างๆเพื่อช่วยให้ลูกค้าบริหารงานด้านปฏิบัติการได้ดีขึ้น และยังมีรายการส่งเสริมการขายสำหรับลูกค้าที่สั่งซื้อทางออนไลน์ นอกจากนี้ RS ยังมีระบบ e-Procurement และ PurchasingManager 3.0 ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ด้านบริหารการจัดซื้อที่ช่วยลูกค้าบริหารขั้นตอนการจัดซื้อได้อย่างเป็นระบบ และยังช่วยลดต้นทุนการดำเนินการที่เกิดจากการสั่งซื้อสินค้าที่มีมูลค่าน้อยอีกด้วย

นอกจากสินค้า 350,000 รายการแล้ว RS ยังเพิ่มสินค้าใหม่อีก 21,000 รายการในปี 2552 โดยในปีนี้ RS ได้เพิ่มสินค้าใหม่อีก 8,000 รายการจาก Texas Instruments จนทำให้ RS กลายเป็นตัวแทนจำหน่ายที่มีผลิตภัณฑ์ TI มากที่สุด โดยมีรายการสินค้า TI รวมทั้งหมดกว่า 11,000 รายการ และเมื่อเร็วๆนี้ Agilent ได้แต่งตั้ง RS เป็นตัวแทนจำหน่ายอุปกรณ์วัดและทดสอบในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยการร่วมมือกันในครั้งนี้เกิดจากพันธะสัญญาระดับโลกที่มีอยู่ก่อนแล้ว โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นของตลาดในภูมิภาคนี้ นอกจากนี้บริษัทยังได้ลงนามในสัญญาการเป็นตัวแทนจัดจำหน่ายทั่วโลกให้กับ Tyco Electronics เมื่อต้นปีที่ผ่านมา และยังทำสัญญาจัดจำหน่ายสินค้าทั่วโลกให้กับ Traco, Molex, Osram และ Microchip อีกด้วย

“RS Components ได้ฟันฝ่าอุปสรรคที่เกิดจากภาวะทางเศรษฐกิจ และเราเชื่อว่าเราได้ผ่านพ้นวิกฤติมาแล้ว ซึ่งทำให้เรามีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น” นายฮักซ์เลย์กล่าว “การทำงานอย่างใกล้ชิดกับลูกค้าในการมอบบริการเสริมพิเศษที่ให้ประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นและช่วยลดต้นทุนให้แก่ลูกค้าในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจ เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้เราเอาชนะวิกฤติเศรษฐกิจได้ สำหรับปี 2553 เราคาดหวังว่าตลาดจะมีความมั่นคงและการเติบโตที่คงที่ การที่เราลงทุนด้านอิเล็กทรอนิกส์, อีคอมเมริซและทรัพยากรบุคคลเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้เราประสบความสำเร็จผ่านช่วงระยะเวลาที่ยากลำบากมาได้ และเรายังคงลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับการเติบโตต่อไป”

เกี่ยวกับ RS Components

RS Components (RS) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Electrocomponents plc เป็นหนึ่งในตัวแทนจำหน่ายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์, อิเล็กทรอ-เมคคานิกส์ และสินค้าอุตสาหกรรมผ่านทางแคตตาล็อกและเว็บไซต์ที่ใหญ่ที่สุด

กลุ่มบริษัทในเครือซึ่งดำเนินงานภายใต้ตราสินค้า RS Components, Radiospares, Radionics และ Allied Electronics ในสหรัฐอเมริกา ให้บริการลูกค้าเกือบ 1.6 ล้านคนในกว่า 80 ประเทศทั่วโลก RS จำหน่ายสินค้ากว่า 450,000 รายการจากกว่า 2,500 แบรนด์ผ่านทางเครือข่ายใน 27 ประเทศและคลังสินค้า 16 แห่ง

กลุ่มบริษัทในเครือมีรายได้มากกว่า 925 ล้านปอนด์และมีชื่ออยู่ในตลาดหุ้นของกรุงลอนดอน

ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ชั้นนำในอุตสาหกรรมที่ www.rs-components.com .